เนื่องจากโฆษณา YouTube Ads มีหลายรูปแบบมาก อีกทั้งแต่ละแบบยังให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว หากต้องการลงโฆษณา YouTube Ads ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงต้องคำนึงถึงโจทย์ข้อนี้ด้วย ดังนั้นวันนี้ Relevant Audience เลยจะมาแนะนำวิธีการเลือกรูปแบบโฆษณาให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจคุณ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถลงโฆษณาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
1.ต้องการสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มความสนใจให้กับธุรกิจของตัวเอง (Brand Awareness)
- Non-Skippable In-Stream Ads
โฆษณาประเภทนี้จะขึ้นแทรกระหว่างการดูวิดีโอหลักและไม่สามารถกด Skip ได้ โดยมีความยาวไม่เกิน 15 วินาที ด้วยความยาวประมาณนี้ จึงสามารถเล่าเรื่องราวให้น่าติดตามและน่าจดจำได้ง่าย เหมาะกับโฆษณาที่มีเป้าหมายในการสร้าง Brand Awareness เป็นอย่างมาก
- Overlay-In-Video Ads
โฆษณาประเภทนี้จะขึ้นแทรกอยู่บนหน้าวิดีโอในรูปแบบแบนเนอร์ ผู้ชมสามารถกดปิดได้ โดยเป็นอีกหนึ่งการโฆษณาที่ช่วยให้ลูกค้าจดจำสินค้าและบริการของคุณได้แน่นอน อย่างไรก็ตามโฆษณาประเภทนี้จะขึ้นเพียงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ไม่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ
2.ต้องการโปรโมทสินค้าและบริการใหม่ๆ
- Display Ads
โฆษณาประเภทนี้จะปรากฏอยู่ที่มุมขวาบนของหน้าจอ โดยอยู่ในรูปแบบแบนเนอร์ นับเป็นจุดที่โดดเด่นมากจึงเหมาะกับการใช้โปรโมทสินค้าและบริการใหม่ๆ ของแบรนด์ หรือใช้เพื่อประกาศข่าวสารบางอย่าง
- Bumper Ads
โฆษณาประเภทนี้จะขึ้นแทรกระหว่างการดูวิดีโอหลัก มีความยาวเพียง 6 วินาที สามารถกด Skip ได้ การลงโฆษณาในรูปแบบนี้จึงค่อนข้างท้าทายเพราะต้องสื่อสารทุกอย่างออกมาภายในเวลาที่จำกัด จึงไม่เหมาะกับการเล่าอะไรยาวๆ แต่เหมาะกับการโปรโมทสินค้าและบริการใหม่ๆ แบบตรงประเด็นทันที เช่น โชว์สินค้า ราคา และช่องทางการซื้อขึ้นมาทันที และต้องมีสีสันที่โดดเด่นด้วย เป็นต้น
- Mastheads
โฆษณาประเภทนี้จะแสดงผลเฉพาะหน้าแรกของ YouTube เท่านั้น และนับเป็นโฆษณาที่ลงยากที่สุดของ YouTube เพราะต้องใช้เวลาในการติดต่อ Google Sale Representative และมีค่าใช้จ่ายสูง ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของโฆษณา แต่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นพื้นที่ในการโปรโมทสินค้าคอลเลกชันใหม่ของแบรนด์ดังให้ทุกคนรู้จัก โดยลักษณะของโฆษณาจะเป็นวิดีโอ ที่แม้จะถูกปิดเสียงไว้แล้วก็ยังเล่นต่อไปได้
3. ต้องการเพิ่มยอดขาย
- TrueView In-Streams Ads
โฆษณาประเภทนี้จะขึ้นแทรกระหว่างการดูวิดีโอหลัก สามารถกดข้ามได้หลังจาก 5 วินาที เหมาะกับการโปรโมทสินค้าที่พุ่งเข้าประเด็นได้ทันที และต้องดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าf^ไม่น่าสนใจมากพอผู้ชมก็จะกดข้าม แต่ถ้าสนใจผู้ชมก็จะดูต่อและขายสินค้าได้ โดยจะคิดเงินก็ต่อเมื่อเล่นนานเกิน 30 วินาที เรียกว่าจะเสียเงินก็ต่อเมื่อผู้ชมสนใจโฆษณาของเราจริงๆ
- TrueView In-Display Ads หรือ TrueView In-Search Ads
โฆษณาประเภทนี้จะขึ้นอยู่หน้าแรกของ YouTube ด้านข้างวิดีโอ และในหน้าค้นหา หมายความว่าเมื่อผู้ชมค้นหา Keyword ที่ตรงกับบริการของคุณ วิดีโอของคุณก็จะขึ้นมา โดยการคิดค่าโฆษณาจะเกิดขึ้นเมื่อมีคนคลิกเข้าชมวิดีโอของคุณ ดังนั้นโฆษณารูปแบบนี้จึงช่วยเพิ่มยอดขาย และสร้างแรงจูงใจให้คนซื้อสินค้าของคุณได้มากขึ้น
ตอนนี้ทุกคนคงมองออกแล้วว่าถ้าธุรกิจของตัวเองมีเป้าหมายแบบนี้ ควรลงโฆษณาแบบไหนดีถึงจะได้ผลดี อย่างไรก็ตามการจะลงโฆษณา YouTube Ads ให้มีประสิทธิภาพต้องมีการวิเคราะห์ด้านการตลาดร่วมด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะยิงโฆษณาไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาเอเจนซีด้านการตลาดดิจิทัลเพื่อมาช่วยวิเคราะห์และทำการตลาดให้คุณบน YouTube และช่องทางอื่นๆ Relevant Audience เอเจนซีด้านการตลาดดิจิทัลมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาและให้บริการทุกคนตลอดเวลา