Google Indexing คืออะไร? มือใหม่หัดทำ SEO ต้องรู้!

May 12, 2022Published By: Relevant Audience
Results Image

“หน้านี้ถูกกูเกิลทำ Indexing ไปแล้วหรือยังนะ?” หลายคนที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองคงเกิดคำถามลักษณะนี้ขึ้นมาในใจอยู่บ่อยครั้ง ต้องอธิบายแบบนี้ว่า อัลกอริทึมของ Search Engine จะหาเว็บไซต์เจอหรือไม่เจอนั้น มีรายละเอียดเชิงเทคนิคที่มีความซับซ้อนมาก ถ้าจะให้อธิบายตั้งแต่พื้นฐานหลายคนอาจจะมีหลับคาหน้าคอมกันบ้างแน่ๆ แต่ในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเรื่องยากๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ กันว่า อะไรคือ Indexing? และมีวิธีการตรวจสอบอย่างไรว่าหน้าเว็บไซต์นี้ถูกกูเกิลทำ Indexing ไว้แล้วหรือยัง? และหากกูเกิลยังไม่ได้ทำ Indexing จะมีวิธีการไหนที่แจ้งให้กูเกิลทราบได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย

Indexing คืออะไร ทำไมคนทำ SEO ต้องรู้?

สำหรับคำว่า Indexing แท้ที่จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังแต่อย่างใด แต่คือศัพท์เฉพาะที่ถูกนิยามไว้ในบริบทของการที่ Search Engine (ในที่นี้ขอยกตัวอย่าง Google) ได้ปล่อย Google Bot คอยเก็บข้อมูลต่างๆ ในหน้านั้นๆ ของเว็บไซต์ แล้วนำไปจัดเรียงในฐานข้อมูลเพื่อเอาไว้ให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถค้นหาผ่าน Google Search ได้

หมายความว่าหากเว็บไซต์ไหนไม่ได้ถูก Indexing ก็จะเท่ากับว่าหน้าเว็บไซต์นั้นจะไม่ถูกจัดเก็บเข้าไปในฐานข้อมูลและจะเป็นผลให้หน้านั้นไม่สามารถค้นหาผ่าน Google Search ได้  พูดง่ายๆ ก็คือคำว่า Indexing นั้นหมายถึงการจัดทำบันทึกข้อมูลเพื่อให้คนทั่วไปสามารถค้นหาข้อมูลนั้นๆ เจอผ่าน Google Search นั่นเอง 

จะรู้ได้อย่างไรว่า “หน้านั้นถูก Indexing แล้ว”

ปัญหาในเรื่องของ Indexing เป็นหนึ่งในสิ่งที่ SEO Specialist หลายท่านกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะหลายคนที่กำลังเริ่มต้นทำ SEO อาจมีความกังวลว่ากูเกิลนั้นเริ่มปล่อย Google Bot มาทำ Indexing ในหน้าเว็บไซต์แล้วหรือยัง เพราะถ้าไม่มีการทำ Indexing ก็จะหมายความว่าทุกอย่างที่ทำมาไม่ว่าจะเป็นการอดหลับอดนอนคิดคอนเทนต์ หรือปรับแต่งหน้าเว็บไซต์จนสายตาเสียกันไปข้าง ทั้งหมดนี้จะมีค่าเท่ากับศูนย์ทันที 

เพราะฉะนั้นการตรวจสอบว่าหน้าเว็บว่าถูกทำ Indexing ไปแล้วหรือยังจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ แน่นอนว่าวิธีจะใช้ตรวจสอบมีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • การทดสอบด้วยการคัดลอกเนื้อหาบางส่วน จากนั้นไปที่ Google แล้วกดวางเนื้อหานั้นไปที่ช่องค้นหาเลยว่าพบหรือไม่พบ
  • ไปที่ Google แล้วพิมพ์ site: ตามด้วยชื่อเว็บไซต์ แบบไม่ต้องใส่ https:// ตัวอย่างเช่น site:relevantaudience.com ก็จะสามารถเช็กได้เลยว่า Google ได้จัดทำ Indexing หน้าเว็บไซต์ไปมากน้อยแค่ไหน
  • ไปที่ Google แล้วพิมพ์ cache: ตามด้วยชื่อเว็บไซต์ แบบไม่ต้องใส่ https:// ตัวอย่างเช่น cache:relevantaudience.com ก็จะสามารถตรวจสอบได้เช่นกัน 
  • ทดสอบด้วยการค้นหาแบบตรงๆ สำหรับการทดสอบแบบนี้ก็คือการลองค้นหาด้วยการนำเอาลิงก์ของหน้าเว็บที่ต้องการตรวจสอบไปค้นหาบน Google Search โดยตรง ตัวอย่างเช่น หากอยากรู้ว่าคอนเทนต์ที่เราเพิ่งลงบนเว็บไซต์ไปจะถูกกูเกิลจัดทำ Indexing แล้วหรือยัง ก็แค่นำ URL ของหน้าเว็บนั้นไปค้นหาลงบนช่อง Google ก็จะทราบได้ทันทีว่าผลเป็นอย่างไร 

วิธีทำให้ Bot เข้ามา Indexing หน้าเว็บ

ต้องเข้าใจกันก่อนว่า Bot ของกูเกิลนั้นจะถูกปล่อยออกมาอยู่ตลอดเวลาเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเว็บไซต์เพื่อนำไปจัดทำ Indexing อาจใช้เวลาตั้งแต่ 2-3 วัน จนไปถึง 2-3 สัปดาห์ ก็ขึ้นอยู่กับว่าโครงสร้างเว็บไซต์นั้นง่ายต่อการที่ระบบของกูเกิลจะตรวจสอบข้อมูลได้ช้าหรือเร็วแค่ไหน 

แต่หากผ่านไปหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์จนเกิดความรู้สึกตงิดๆ ในใจว่าทำไมหน้านี้ไม่ถูก Indexing สักที  ก็ถึงเวลาที่จะต้องใช้วิธีการที่จะช่วยให้กูเกิลเข้ามาเจอหน้านั้นเพื่อทำ Indexing ให้สักที สำหรับวิธีการส่งสัญญาณไปให้กูเกิลทราบมีด้วยกันอยู่หลายวิธี แต่บางวิธีอาจต้องมีพื้นฐานเทคนิคในการทำ SEO อยู่บ้าง แต่ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีที่ทำตามได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกมากเท่าไหร่ ซึ่งวิธีการทำมีดังนี้

  • ใช้วิธีการ Ping หรือแจ้งเตือนให้กูเกิลทราบด้วยการก็อป URL ทั้งหมดนี้ไปวางไว้ที่ Search Bar แล้วกด Enter เมื่อเจอ Text ในลักษณะตามภาพด้านล่างนี้ หมายความว่าการแจ้งให้กูเกิลทราบสำเร็จแล้ว https://www.google.com/ping?sitemap=(ใส่ URL เต็มของหน้าเว็บที่ต้องการแจ้งให้กูเกิลทราบ)

อ่านมาจนถึงตรงนี้คงพอเข้าใจกันแล้วใช่ไหมว่า อะไรคือ Indexing แล้วการทำ Indexing มีผลสำคัญต่อการทำ SEO อย่างไร ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าสำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นทำ SEO อยู่ในตอนนี้ แล้วคิดว่าแค่ Google มาทำ Indexing ให้กับหน้าเว็บไซต์ แล้วจะทำให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับสูงๆ ทันที เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะการทำ Indexing เป็นเพียงแค่บันไดก้าวแรกของการทำ SEO เท่านั้น ยังมีเทคนิคอีกมากที่ต้องใช้เวลาและความอดทนในการเรียนรู้และทดลองทำ อย่างที่รู้กันดีว่าผลลัพธ์จากการทำ SEO เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา กว่าจะเห็นผลลัพธ์อาจจะต้องรอตั้งแต่ 3-4 สัปดาห์ ไปจนถึง 3-4 เดือน เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นเอาไว้จนกว่าวันที่ผลลัพธ์นั้นจะปรากฏออกมา

รับปรึกษาการทำ SEO ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Related Articles

If you enjoyed reading this article, you might like these too.

Understanding LLMs.txt: A New Proposal for AI Content
General topics

April 18, 2025

Understanding LLMs.txt: A New Proposal for AI Content
Learn about LLMs.txt, a proposed standard for websites to present content to AI models. Discover its purpose, benefits, and limitations....
อนาคตของ SEO ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 17, 2025

อนาคตของ SEO ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ค้นพบว่า AI กำลังเปลี่ยนรูปแบบของ SEO และเรียนรู้กลยุทธ์ในการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของวงการค้นหา giữความได้เปรียบในยุคของปัญญาประดิษฐ์...
วิธีเพิ่มธุรกิจของคุณลงใน Google Maps
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 17, 2025

วิธีเพิ่มธุรกิจของคุณลงใน Google Maps
เรียนรู้ขั้นตอนง่ายๆ ในการเพิ่มธุรกิจของคุณลงใน Google Maps และเพิ่มการมองเห็นในท้องถิ่น ดึงดูดลูกค้ามากขึ้นด้วยคู่มือที่สมบูรณ์นี้...
การเปลี่ยนโดเมนของ Google: ความหมายสำหรับคุณ
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 17, 2025

การเปลี่ยนโดเมนของ Google: ความหมายสำหรับคุณ
เรียนรู้ว่าการรวมโดเมนของ Google จะส่งผลต่อประสบการณ์การค้นหาและกลยุทธ์ SEO ของคุณอย่างไร ติดตามข้อมูลล่าสุด!...