สวัสดีทุกๆ ท่าน กลับมาอีกครั้งกับเคล็ดลับดีๆ ที่จะพาเว็บไซต์ของทุกท่านไปสู่หน้าแรก ซึ่งในวันนี้ที่ Relevant Audience จะมานำเสนอคือเจ้า Core Web Vitals ว่าคืออะไร ทำไมเราต้องใส่ใจ แล้วเหตุใดที่ในปีขาล 2022 แบบนี้ คนทำ SEO จะต้องใส่ใจด้วย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มต้นดูพร้อมกันเลยครับ
สำหรับคนที่ติดตาม SEO คงพอจะรู้เหตุผลอยู่แล้วว่าทำ Core Web Vitals ถึงสำคัญ แต่สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มสนใจ อาจงงๆ อยู่บ้าง นั่นเป็นเพราะว่านแต่ละปีนั้นบรรดากูรูก็จะออกมาพูดว่าปีนี้ถ้าจะทำ SEO ให้ได้ผลจะต้องสนใจเรื่องนี้ เรื่องนั้น แต่ในปีนี้ทาง Google ได้ออกมาพูดเองว่า Core Web Vitals คือปัจจัยหลักในการจัดอันดับเว็บไซต์นั่นเอง
Core Web Vitals คืออะไร?
Core Web Vitals คือมาตรฐานสำคัญในการทำเว็บไซต์ที่ทาง Google ได้กำหนด ซึ่งจะเป็นการวัดผลในเรื่องของ UX (User Experience) หรือประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้งานว่าใช้งานได้อย่างดี โดยประกอบด้วย ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ (Page Speed) สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ การตอบสนองของเว็บไซต์ และความเสถียรขององค์ประกอบภายใน ว่าสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างดี กล่าวได้ว่า Core Web Vitals ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Page Experience ก็ว่าได้ โดยเรื่อง Core Web Vitals นั้นได้ปรับตัวสำหรับเวอร์ชันมือถือตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว โดยภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 นี้ คาดการณ์ว่าจะเริ่มปรับมาจัดอันดับ Core Web Vitals บนเดสก์ท็อปมากขึ้น อย่างไรก็ตามการอัปเดตนี้เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในการไต่อันดับ Ranking บน SERP (Search Engine Result Page) เท่านั้น เพราะหากขาดปัจจัยสำคัญอย่างเนื้อหาที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ก็ไม่สามารถตอบสนองพฤติกรรมในการค้นหาของผู้ใช้งานได้อยู่ดี
4 ปัจจัยสำคัญในการ Optimize Core Web Vitals
สำหรับการ Optimize Core Web Vitals นั้น จะประกอบด้วยปัจจัยทั้ง 4 ด้านซึ่งหากคะแนนเฉลี่ยออกมาอยู่ที่สีเขียวหรืออยู่ในเกณฑ์ดี โอกาสที่เว็บไซต์ที่ทำคอนเทนต์ภายในดีจะติดอันดับก็มีมาก ส่วนกรณีที่อยู่ในสีส้มหรือสีแดง ถือว่าควรปรับปรุง โดยมีรายละเอียดดังนี้
- First Contentful Paint (FCP) คือเมตริกที่ใช้วัดระยะเวลาที่เบราว์เซอร์ แสดงเนื้อหาเมื่อเนื้อหาแรกได้ปรากฏขึ้น เช่น เมื่อเปิดหน้าเว็บแล้วจะเห็นภาพแบนนเนอร์และตามด้วยข้อความบางส่วน แต่ข้อมูลยังแสดงไม่ครบทั้งหมด โดยมาตรฐานกำหนดไว้ดังนี้ หากใช้เวลาไม่เกิน 1,000 ms ถือว่าดีมากและหากมากเกิน 3,000 ms ถือว่าควรต้องปรับปรุง
- Largest Contentful Paint (LCP) คือ ตรวจวัดว่าเว็บไซต์ของเราดาวน์โหลดได้พอดีเท่าไร โดยเมื่อเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา ถ้าใช้เวลาโหลดนานกว่า 2.5 วินาทีถือว่าจะต้องปรับปรุง และเกินกว่า 4 วินาทีจะถือว่าแย่ ซึ่งเนื้อหาภายในจะต้องประกอบด้วยเนื้อหา รูปภาพหรือวิดีโอ ซึ่งหากมีภาพที่มีความละเอียดสูงหรือไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ก็จะทำให้ต้องใช้เวลาโหลดนาน ซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนในส่วนนี้ได้
- First Input Delay (FID) คือ การวัดการตอบสนองความเร็วของเว็บไซต์เมื่อผู้ใช้ได้กระทำบางอย่าง เช่น การกดปุ่มเพื่อไปอีกหน้าหนึ่ง เมื่อกดปุ่มเหล่านั้นแล้ว การตอบสนองทันทีหรือจะต้องใช้เวลารอ จนบางครั้งอาจต้องกดซ้ำๆ ซึ่งตามมาตรฐานที่ Google กำหนดคือต้องสามารถตอบสนองผู้ใช้งานหลังกดปุ่มได้ภายใน 0.1 วินาที และถ้าเกินกว่า 0.3 วินาที จะส่งผลให้คะแนนแย่นั่นเอง
- Cumulative Layout Shift (CLS) คือการเคลื่อนย้ายหรือเคลื่อนไหวภายในเว็บไซต์ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “เว็บกระตุก” เช่น เวลาที่เรากดปุ่มนี้ แต่ดันไปโดนอย่างอื่น เข้าเว็บไซต์แล้วภาพกระตุกสั่นๆ โดยมาตรฐานที่ทาง Google กำหนดจะวัดจากการขยับของภาพหรือตัวอักษรว่ามีขนาดใหญ่แค่ไหนและขยับไปไกลแค่ไหน โดยเมื่อวัดแล้วคะแนนไม่ควรเกิน 0.1 จะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี และถ้าเกิน 0.25 ไปจะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่แย่นั่นเอง
สำหรับใครที่อยากตรวจสอบคะแนน Core Web Vitals ฟรี สามารถทำได้โดยใส่เว็บไซต์ไว้ที่ https://developers.google.com/speed/pagespeed/insights/ ก็จะสามารถเช็กได้เลยทันทีว่าคะแนนภายในเว็บไซต์เป็นอย่างไร โดย Default หลักของการตรวจจะเป็นตัวมือถือ แต่ก็สามารถเลือกดูได้ของเดสก์ท็อปได้เช่นกัน
ปรับปรุงเว็บอย่างไรให้ Core Web Vitals อยู่ในเกณฑ์ดี?
ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Google เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีนั้น จะต้องมีหลายองค์ประกอบรวมกัน บางครั้งอาจจะต้องให้โปรแกรมเมอร์เข้ามาตรวจสอบ นำโค้ดที่ไม่จำเป็นออกไป หรืออาจจะต้องติดตั้ง Plugin บางตัวเข้ามาช่วย ซึ่งอีกหนึ่งวิธีการที่จะช่วยปรับปรุง Core Web Vitals ให้อยู่ในเกณฑ์ดีได้ คือการรับคำปรึกษาบริการทำ SEO สายขาวแบบครบวงจร จากผู้เชี่ยวชาญ
รับคำปรึกษาการทำ Core Web Vitals และ SEO กับ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com