Voice Search Optimization คืออะไร? และสำคัญยังไงต่อการทำ SEO ในปี 2024? มาสำรวจการเติบโตของการค้นหาด้วยเสียง ผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้ใช้ การค้นหา และการทำ SEO
Voice Search คืออะไร?
Voice Search หรือการค้นหาด้วยเสียง คือ การใช้คำสั่งเสียงในการค้นหาข้อมูลผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน ลำโพงอัจฉริยะ นาฬิกาอัจฉริยะ หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ต่อกับไมโครโฟน โดยผู้ใช้สามารถถามคำถามหรือออกคำสั่งด้วยเสียงแทนการพิมพ์ ทำให้การค้นหาข้อมูลเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าอาจเป็นสิ่งที่หลายๆ คนมักทำกันอยู่แล้ว หรือเปิดใช้งานบ้างเป็นบางครั้งบางคราว
แล้ว Voice Search Optimization คืออะไร
Voice Search Optimization คือ กระบวนการ Optimize หรือปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้เหมาะสมกับ Voice Search เพื่อให้แสดงผลเว็บไซต์ของเราเป็นอันดับแรกๆ นั่นเอง โดยอาจจะเป็นการที่ Voice Assistance อย่าง Google Assistance หรือ Alexa อ่านเนื้อหาหรือแนะนำสินค้าบนเว็บไซต์ของเราให้แก่ User เปรียบเทียบเมื่อกับการทำ SEO สำหรับคำสั่งเสียงนั่นเอง ซึ่งหลายคนอาจมองว่ายังไม่จำเป็น แต่จากสถิติและเทรนด์ทั่วโลก Voice Search นั้นกำลังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เลยทีเดียว
การเติบโตของ Voice Search
จากข้อมูลสถิติของ Statista ระบุว่ากว่า 25% ของ User ในแถบประเทศตะวันตก กล่าวว่า ตัวเองใช้งาน Voice Search หรือ Voice Assistance เป็นจำนวนหลายครั้งต่อวัน ซึ่งส่งผลให้ Voice Search เติบโตในหลากหลายด้าน เช่น
1. การโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
ข้อมูลการใช้งาน Voice Search ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วยให้เครื่องมือ Voice Assistance ต่างๆ สามารถวิเคราะห์รูปแบบการพูดที่เป็นธรรมชาติได้ดีขึ้น ทำให้เข้าใจคำค้นหาได้แม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถสนทนากับ Voice Assistance ได้ยาวนานและซับซ้อนขึ้น ทำให้การค้นหาข้อมูลเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Voice Assistance จะเรียนรู้น้ำเสียง คำศัพท์ และวลีที่แต่ละคนใช้บ่อยๆ ทำให้การค้นหาด้วยเสียงมีความ Personalized มากขึ้น เข้าใจบริบทมากขึ้น ผลการค้นหาจะตรงกับความต้องการของแต่ละคนมากขึ้นในที่สุด
2. ความสะดวกสบาย
เมื่อผู้ใช้งานคุ้นเคยกับการพูดเนื้อหายาวๆ มากขึ้น พวกเขาอาจค้นหาหรือออกคำสั่งในรูปแบบการสนทนายาวๆ เหมือนการพูดกับคนจริงๆ แทนที่จะเป็นแค่คำสั่งสั้นๆ ซึ่งสร้างความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการใช้งานแบบไม่ต้องใช้มือ โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบหรือทำกิจกรรมอื่นไปพร้อมกัน ทั้งนี้ ในมุมของคนทำเว็บไซต์ เราสามารถหาคำค้นหาแบบยาว (Long-Form Query) ได้จาก Google Search Console (GSC) หรือเครื่องมืออื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้รู้ว่า เว็บไซต์ของเราควรตอบคำถามอะไรบ้าง เพื่อให้ทำ Voice Search Optimization ได้ตรงจุด
3. ความคาดหวังที่สูงขึ้น
แน่นอนว่า พอ Voice Search มีความสามารถมากขึ้น ผู้ใช้งานก็มักจะตั้งความคาดหวังเอาไว้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน หลายคนอาจจะคาดหวังให้ Voice Assistance เข้าใจบริบทและเจตนาของคำถามจากการสนทนาในอดีต ทำให้ความคาดหวังต่อผลลัพธ์สูงขึ้น หากเกิดปัญหา ตอบคำถามไม่ได้ หรือตอบคำถามผิดๆ อาจทำให้ความเชื่อมั่นในผลลัพธ์ลดลง ดังนั้น ผลลัพธ์จะต้อง Personalized มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อาจสูญเสียความเชื่อมั่นได้ง่ายเช่นกัน
สรุปคือ การค้นหาด้วยเสียงกำลังพัฒนาให้เข้าใจผู้ใช้มากขึ้น แต่ก็ต้องรักษาความแม่นยำและความน่าเชื่อถือไปพร้อมๆ กัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าในปี 2024 จะจำนวนการใช้งาน Voice Assistance จะสูงถึง 8.4 พันล้านเครื่อง ซึ่งนับว่ามากกว่าประชากรโลกเสียอีก
กลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่ (Gen Alpha)
ในกลุ่ม User รุ่นใหม่อย่าง Gen Alpha หรือกลุ่มที่เกิดในปี 2010 เป็นต้นไป ก็มีสถิติการใช้งาน Voice Search ที่น่าสนใจ ดังนี้
- กลุ่ม Gen Alpha ใช้ Voice Search บ่อยขึ้นในการหาคำตอบและท่องอินเทอร์เน็ต
- กลุ่ม Gen Alpha มันใช้ Voice Search ใช้สำหรับการบ้าน ค้นหาข้อมูล หรือหาคำตอบเร็วๆ ในการสนทนา
- กลุ่ม Gen Alpha คาดหวังการตอบสนองจาก Voice Search แบบทันท่วงที
- กลุ่ม Gen Alpha ใช้ Voice Search เป็นเครื่องมือเรียนรู้แบบโต้ตอบ และช่วยในการเรียนนอกห้องเรียน
ความสำคัญของ Voice Search Optimization ต่อการทำ SEO
แน่นอนว่า เพื่อให้ Voice Assistance เลือกใช้เว็บไซต์เราในการตอบคำถามของ User เราก็จำเป็นต้องปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะสมตามไปด้วย เช่น
1. ปรับปรุงเนื้อหาให้ตอบสนองคำถามที่ซับซ้อนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
โดยนักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ต้องสร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามแบบยาวและเป็นธรรมชาติ
2. การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ
โดยนักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ต้องสร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามแบบยาวและเป็นธรรมชาติ
3. การเน้นคำถามแบบ Long-Tail
ควรมุ่งเน้นการตอบคำถามแบบยาวและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
4. การเพิ่มข้อมูลโครงสร้าง (Structured Data)
ควรมุ่งเน้นการตอบคำถามแบบยาวและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
5. การเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์
เว็บไซต์ที่โหลดเร็วมีโอกาสถูกเลือกให้เป็นผลลัพธ์สำหรับการค้นหาด้วยเสียงมากกว่า
ความท้าทายและโอกาสในการทำ Voice Search Optimization
อย่างแรกที่ต้องพูดถึง คือ การติดตามและวัดผลการทำ Voice Search Optimization ยังทำได้ยาก เนื่องจากข้อมูลมีจำกัด อีกทั้งปัจจุบันยังมีพื้นที่จำกัดในการแสดงผลลัพธ์ Voice Search ทำให้การแข่งขันเพื่อให้ได้ First Place สูงอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้ใช้งานอาจมีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้การค้นหาด้วยเสียงในที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม การทำ Voice Search Optimization นั้นเป็นตัวช่วยสร้างโอกาสให้แบรนด์และธุรกิจ ในการสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงโปรโมทผลิตภัณฑ์หรือบริการให้กับ User ได้โดยตรง
อนาคตของ Voice Search
คาดว่า AI จะขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการค้นหาต่อไป รวมถึง Voice Search ด้วย ซึ่งนำไปสู่การผสมผสานเข้ากับชีวิตประจำวันและงานต่างๆ มากขึ้น ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Voice Assistance สามารถมอบผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงกับผู้ใช้แต่ละคนมากขึ้น แล้วในที่สุด Voice Search อาจขยายไปสู่การใช้งานในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการค้นหาข้อมูล เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการควบคุมอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ภายในบ้านอีกด้วย ซึ่งหลายคนน่าจะเคยเห็นตัวอย่างจากอุปกรณ์ Google Home Assistant รวมถึงแอปพลิเคชันต่างๆ กันมาบ้างแล้ว
สรุป Voice Search กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล แม้ว่าหลักการพื้นฐานของ SEO ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่การปรับตัวให้เข้ากับ Voice Search เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ โดย Voice Search Optimization ที่ดีคือการผสมผสานระหว่าง SEO ที่มีประสิทธิภาพและการทำความเข้าใจพฤติกรรมการค้นหาด้วยเสียงของผู้ใช้
การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ตรงประเด็น และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานยังคงเป็นหัวใจสำคัญ แต่ต้องปรับให้เข้ากับรูปแบบการค้นหาที่เปลี่ยนไป พูดง่ายๆ ว่า การเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ธุรกิจและเว็บไซต์ของเราอยู่ในตำแหนงที่ได้เปรียบในยุคของ Voice Search ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
เกี่ยวกับ Relevant Audience
พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)
บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาทำการตลาดออนไลน์
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com