“ก๊อปมาก๊อปกลับไม่โกง” สำหรับสงครามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังคงมีไฟคุกกรุ่นตลอดปี 2022 โดยล่าสุด TikTok แพลตฟอร์มแชร์วิดีโอขนาดสั้นยอดนิยมของวัยรุ่น เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เรียกว่า Photo Mode หรือโหมดรูปภาพที่เปรียบเสมือนกับเป็นจุดเด่นของ Instagram แพลตฟอร์มคู่แข่งมาโดยตลอด
นอกเหนือจากฟีเจอร์ Photo Mode แล้วยังมี Enhanced Editing และอื่นๆ เพิ่มเติมจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร และทิศทางของ TikTok ในการแข่งขันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะลงเอยแบบไหน ในบทความนี้ Relevant Audience รวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนทราบไปพร้อมกัน ไปรับชมกันเลย
TikTok เปิดตัวฟีเจอร์ Photo Mode
TikTok อนุญาตให้ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มทุกคนสามารถแสดงความเป็นตัวตนได้มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ Photo Mode ที่เพิ่งถูกเปิดตัวไปไม่นานมานี้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกแชร์ภาพนิ่งได้หลายภาพในโพสต์ๆ เดียว
หลายคนที่เป็นสายโซเชียลคงรู้กันดีว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ดังมาจากคอนเทนต์แบบคลิปวิดีโอสั้น และยังคงดังต่อเนื่องตั้งแต่แพลตฟอร์มถูกเปิดตัวเมื่อสองถึงสามปีก่อนหน้า จนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube Facebook และ Instagram มีการออกฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกับ TikTok จนทำให้หลายคนอดไมไ่ด้ที่จะแซวว่า แพลตฟอร์มต่างๆ กำลังเดินตามรอยของ TikTok แต่อย่างที่บอกว่าล่าสุด TikTok ก็ได้ตัดสินใจขยายฟีเจอร์บนแพลตฟอร์มให้รองรับการใช้งานของผู้คนหลากหลายกลุ่มมากขึ้น หนึ่งในัน้นคือผู้ใช้งานที่อาจจะไม่ได้ชอบการแชร์เรื่องราวในรูปแบบวิดีโอสั้นแต่อาจจะเป็นการโพสต์รูปภาพ แบบเดียวกับที่แพลตฟอร์มอย่าง Instagram ทำได้
โดยฟีเจอร์ที่ว่านี้คือ Photo Mode โดย TikTok ให้นิยามเอาไว้ว่าทุกคนสามารถเชื่อมต่อกันและกันได้มากขึ้นผ่านการโพสต์รูปภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพเดี่ยวหรืออัลบั้ม พร้อมกับการใส่แคปชันหรือคำอธิบายภาพได้โดยมีความยาวไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร รวมถึงการใส่เพลงประกอบลงไปได้
วิธีการใช้งาน Photo Mode
สำหรับวิธีการใช้งานฟีเจอร์ Photo Mode ให้กดไอคอน “+” ในหน้าสำหรับคุณ (For You) จากนั้นด้านล่างขวาให้คลิกปุ่ม “Upload” เพื่อเลือกรูปภาพที่ต้องการ จากนั้นคลิก “Next”
หากต้องการปรับเป็น Video Mode ก็สามารถคลิปที่ไอคอน “Switch to Video Mode” ที่ปรากฏอยู่ด้านล่างได้ทันที
เพิ่มโหมดตัดต่อวิดีโอที่ปรับปรุงใหม่
นอกเหนือจากฟีเจอร์ Photo Mode แล้ว TikTok ยังปรับปรุงฟีเจอร์การแก้ไขวิดีโอเพื่อให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการสร้างสรรค์เนื้อหาให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งคลิปวิดีโอ เสียง รูปภาพ และข้อความ ผ่านการตัดแต่งและแยกคลิปวิดีโอ หรือ เพิ่มเอฟเฟต์เสียงลูกเล่นต่างๆ การเพิ่มความเร็วหรือลดความเร็วบางช่วงของคลิปวิดีโอได้
สงครามโซเชียลมีเดียวันนี้
อาจจะเป็นเรื่องที่เร็วเกินไปหากจะสรุปว่าแพลตฟอร์มใดจะยืนหนึ่งเป็นผู้ชนะในสงครามโซเชียลมีเดียอันร้อนระอุนี้ อย่างที่รูักันว่าในช่วงเวลาหนึ่งแพลตฟอร์ม TikTok ที่มาพร้อมกับเทรนด์วิดีโอสั้นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ต้องปรับตัวตาม แต่ก็เห็นแล้วว่าหากเป็นในเรื่องคอนเทนต์แบบภาพนิ่งแล้ว Instagram ก็ยังคงยืนหนึ่งอยู่ในตอนนี้จน TikTok ต้องมีการแก้เกมด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ที่คล้ายกันนี้บ้าง แน่นอนว่านอกเหนือจากการก๊อปฟีเจอร์กันไปมาเพื่อดึงดูดฐานผู้ใช้งานของแต่ละแพลตฟอร์มแล้ว สำคัญเลยก็คือแต่ละแพลตฟอร์มต้องมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใชงานมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาฐานผู้ใช้งานเดิมและดึงดูดผู้ใช้งานจากแพลตฟอร์มอื่นๆ นั่นเอง
Source: TikTok Blog
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com