ในปี 2023 ช่องทางโซเชียลมีเดียยอดฮิตสำหรับทั้งแบรนด์และนักการตลาด คงหนีไม่พ้น Instagram และ Facebook ที่ยังคงเป็นผู้นำในส่วนของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ที่ถึงแม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่โดดเด่นมาแอบขโมยฐานผู้ใช้งานไปอยู่บ้าง แต่ Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของทั้งสองแพลตฟอร์มนี้ก็ไม่รอช้าที่จะให้นักพัฒนาทยอยปล่อยฟีเจอร์ต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและนักการตลาดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับช่องทางทำการตลาดออนไลน์ ที่ต้องบอกว่าในตอนนี้ก็ยังคงหาแพลตฟอร์มอื่นๆ มาเทียบได้ด้วยยาก
ด้วยการอัปเดตหลายสิ่งอย่างบนแพลตฟอร์มในปี 2022 ที่ผ่านมา เชื่อว่านักการตลาดมือใหม่หลายคนอาจจะเกิดความรู้สึกสับสนอยู่บ้างว่าในปี 2023 นี้ จะเริ่มต้นวางกลยุทธ์การตลาดอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นในบทความนี้จะมาแชร์ 4 แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการโฆษณาในช่องทางของ Meta Platform รับรองว่าสามารถนำไปปรับใช้กับแคมเปญล่าสุดของคุณได้ทันที ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1. ใช้ประโยชน์จาก Meta Advantage+
Advantage+ เป็นฟีเจอร์ที่ถูกเปิดตัวเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับ Shopping Campaign โดยจะช่วยให้นักการตลาดทำงานน้อยลงผ่านการใช้ ระบบ Machine Learning ที่จะช่วยนำเสนอรูปแบบโฆษณาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับผู้ชมที่มีความเกี่ยวข้องมากขึ้นใน Placement ที่ดีขึ้น ช่วยให้แบรนด์สามารถควบคุม Budget ได้ดีขึ้น เรียกว่าเพิ่มความคล่องตัวให้กับการจัดการแคมเปญโฆษณาได้เป็นอย่างดี รับประกันได้เลยว่าในปี 2023 นี้ Advantage+ จะเป็นหนึ่งในโซลูชันใหม่ของการโฆษณาบน Facebook อย่างแน่นอน
2. รู้จักการทำ Paid Partnership
กลยุทธ์ Influencer Marketing ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในปี 2023 นี้ แต่ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพดีและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการให้อินฟลูช่วยรีวิวสินค้าบริการแบบเต็มๆ รีวิวแฝง หรือ Tie-In ก็ทำได้หลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งสำคัญเลยก็คือหลังจากการให้อินฟลู เผยแพร่คอนเทนต์ต่างๆ บน Facebook หรือ Instagram แล้ว การบูสต์โพสต์โฆษณาของ Influencer ด้วยการเลือกทำ Paid Partnership ก่อนทำการบูสต์โพสต์ ทำให้ลูกค้าหรือนักการตลาดสามารถเห็นข้อมูล Insight ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยอด Reach, Engagement หรือยอด View เพื่อนำข้อมูลไปต่อยอดแผนการตลาดต่อไป บอกได้เลยว่าการทำ Paid Partnetship หรือ Branded Content มีประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นตัว Influencer เอง ทางฝั่งผู้ใช้งานทั่วไป และทางแบรนด์หรือนักการตลาด
3. รู้จัก Facebook Conversions API
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าในปี 2022 ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประกาศใช้ PDPA หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคอย่างเป็นทางการ โดยเป็นข้อบังคับทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้การเก็บข้อมูลทางการตลาดไม่ว่าจะในเว็บไซต์หรือแอปฯ กลายเป็นสิ่งที่ยุ่งยากมากขึ้นสำหรับธุรกิจและนักการตลาด ซึ่งทาง Facebook เองก็รู้ถึงเทรนด์ Data Privacy นี้เป็นอย่างดี จึงมีการเปิดตัวเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะช่วยให้นักการตลาดสามารถเก็บข้อมูลจากผู้ใช้งานเพื่อนำไปวิเคราะห์การปรับปรุงพัฒนาแคมเปญต่างๆ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยการเก็บข้อมูลที่ขัดกับแนวทางการเก็บข้อมูลในปัจจุบัน
โดยสำหรับนักการตลาดที่ใช้งาน Facebook เป็นช่องทางหลัก ก็อาจจะคุ้นเคยกับ Facebook CAPI หรือ Conversion API ที่เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลตัวใหม่ที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ เรียกได้ว่าเห็นภาพรวมครบทุก Customer Journey และยังเหมาะสมกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า อีกทั้งสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ในการโฆษณาแบบ Personlaized ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นใครที่กำลังมีความคิดอยากทำการตลาดออนไลน์บน Facebook ก็ห้ามพลาดที่จะเรียนรู้และศึกษาเอาไว้ เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ทางการตลาดดีๆ กลับไปแบบคุ้มค่า
4. ปรับ Lead Form ให้ Conversion
ใครที่เป็นนักการตลาดคงเจอปัญหา Conversion Rate ในการกรอก Lead นั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินเมื่อเทียบกับปริมาณ Reach ที่มี ดังนั้นหนึ่งสิ่งที่นักการตลาดควรให้ความสำคัญคือ Lead Form ที่ถือเป็น 1 ในหัวใจสำคัญที่จะเพิ่มโอกาสให้มี Conversion Rate ที่เพิ่มขึ้น ด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังนี้
- วาง Lead Form ให้อยู่ส่วนบนของ Landing Page เสมอ
- พาดหัว Lead Form ต้องมี CTA ที่ชัดเจน
- ให้ลูกค้ากรอกเฉพาะข้อมูลที่สำคัญเท่านั้น
- Visual ต้องเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
- สร้างความมั่นใจในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัว
- ทำ A/B Testing เสมอ
ทิ้งท้าย
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าหลายๆ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อช่วยให้นักการตลาดและแบรนด์สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น จะได้มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม ดังนั้นแล้วในฐานะนักการตลาดที่ดีอย่าลังเลที่จะลองใช้ฟังก์ชันใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม Meta เพื่อทดสอบว่าวิธีการใด หรือแนวทางแบบใดจะสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดได้ดีที่สุด
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com