ในหนึ่งหน้าเว็บไซต์รูปภาพต่างๆ มักมีขนาดแตกต่างกัน นั่นหมายถึงว่าปัจจัยในการดันอันดับเว็บไซต์ให้ติดอยู่บนหน้าแรก ย่อมต้องมีรูปภาพเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลัก ข้อมูลทางสถิติพบว่า 27% ของคนที่เข้ามาในหน้าเว็บไซต์มาจากการค้นหารูปภาพ ดังนั้นหากคุณเป็นนักการตลาดหรือผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มต้นดันอันดับเว็บไซต์ตามแนวทางการทำ SEO อยู่ การปรับแต่งรูปภาพที่อยู่บนเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (Image Optimization) ก็จะส่งผลดีต่ออันดับ SEO ของเว็บไซต์ด้วยแน่นอน
สำหรับเว็บไซต์ที่สร้างมาจาก WordPress การใช้ปลั๊กอิน (Plugin) ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีในการทำ Image Optimization ฉะนั้นในบทความนี้จึงได้รวบรวม 10 ปลั๊กอินน่าใช้สำหรับการทำ Image Optimization ถ้าพร้อมแล้ว มาดูไปพร้อมกัน
รูปภาพมีผลต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ อย่างไร?
อย่างที่บอกว่ารูปภาพนับเป็น 1 ใน 3 ส่วนของหน้าเว็บไซต์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากรูปภาพที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนมากเกินไปจะส่งผลโดยตรงต่อความเร็วของเว็บไซต์ และอย่างที่รู้กันดีว่ากูเกิลได้มีการอัปเดต Core Web Vitals ในการวัดประสบการณ์ใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะประเมินว่าเว็บไซต์นั้นจะมีประสิทธิภาพที่ดีพอจะติดอันดับบน SERPs หรือไม่
เมื่อรู้ความสำคัญของการทำ Image Optimization แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มต้นแก้ไขปัญหานี้ สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ขอแนะนำให้ลองใช้ปลั๊กอินต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของรูปภาพบนเว็บไซต์ WordPress โดยเฉพาะ โดยในบทความนี้มีปลั๊กอินที่คัดสรรมาให้ดูถึง 10 อัน ไปเริ่มกันเลย
1. Imagify
ปลั๊กอิน Imagify บน WordPress เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการช่วยลดเวลาในการโหลดและปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของเว็บไซต์ ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้
- รองรับไฟล์ WebP, PDF, GIF, JPG และ PNG
- การปรับขนาดรูปภาพและบีบอัดรูปภาพจะมีตัวเลือก 3 ระดับ คือ Normal, Aggressive และ Ultra
- ฟีเจอร์สำรองรูปภาพต้นฉบับ
- สามารถปรับปรุงรูปภาพทั้งหมดใน Media Library
- มีให้ใช้งานเวอร์ชันฟรี
2. ShortPixel Image Optimizer
ShortPixel เป็นปลั๊กอินที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของรูปภาพบนเว็บไซต์ WordPress การันตีได้จากยอดผู้ใช้งานมากกว่า 300,000 ราย โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้
- การบีบอัดไฟล์รูปภาพสามระดับที่แตกต่างกัน (Lossless, Lossy และ Glossy)
- การปรับปรุงประสิทธิภาพรูปภาพโดยอัตโนมัติ (Automatic Image Optimization)
- รองรับไฟล์ WebP, JPG, GIF, AVID และ PDF
- สามารถทำงานได้ต่อเนื่องแม้ว่าผู้ใช้งานจะสลับหน้าจอไปทำอย่างอื่นก็ตาม
- ฟีเจอร์สำรองรูปภาพต้นฉบับ
- มีให้ใช้งานเวอร์ชันฟรี (สูงสุด 100 รูปภาพ)
3. EWWW Image Optimizer
EWWW ปลั๊กอินที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี การันตีประสิทธิภาพการทำงานจากผู้ใช้งานราว 1 ล้านคน ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ EWWW Image Optimizer มีดังนี้
- รองรับไฟล์รูปภาพ JPG, PNG และ PDF
- ฟีเจอร์ Lazy Load
- ฟีเจอร์การเพิ่มส่วนที่หายไปให้กับรูปภาพ
- ฟีเจอร์ Bulk Image Optimization
- ฟีเจอร์สำรองรูปภาพต้นฉบับ
- ไม่จำกัดขนาดไฟล์ของรูปภาพที่ต้องการบีบอัด
- มีให้ใช้งานในเวอร์ชันฟรี
4. reSmush.it
หากใครที่กำลังมองหาปลั๊กอินที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของรูปภาพแบบฟรี reSmush.it อาจเป็นตัวเลือกลำดับแรกที่ดีของคุณ โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้
- รองรับไฟล์รูปภาพ JPG, PNG, BMP, GIF และ TIF
- ฟีเจอร์ Bulk Image Optimization
- ใช้งานได้กับรูปภาพที่มีขนาดต่ำกว่า 5 MB เท่านั้น
- ฟีเจอร์สำรองรูปภาพต้นฉบับ
5. Smush Image Compression and Optimization
Smush เป็นหนึ่งในปลั๊กอินบีบอัดไฟล์รูปภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเว็บไซต์ WordPress โดยมีอินเทอร์เฟซที่ดูดีและใช้งานง่าย สำหรับฟีเจอร์เด่นๆ มีดังนี้
- ฟีเจอร์ Lazy Load
- บอกรายละเอียดหลังจากการบีบอัดรูปภาพ (เช่น หลังจากการบีบอัดรูปภาพแล้วจะช่วยประหยัดพื้นที่บนเว็บไซต์ไปได้เท่าไหร่)
- เลือกระดับของการบีบอัดไฟล์รูปภาพได้ (Lossy และ Lossless)
- มีให้ใช้งานในเวอร์ชันฟรี (จำกัด เฉพาะรูปภาพที่มีขนาดไฟล์ไม่เกิน 1 MB)
6. Optimole
Optimole เป็นปลั๊กอินที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถกำจัดรูปภาพขนาดใหญ่ต่างๆ ออกไปจากเว็บไซต์เพื่อให้เว็บไซต์โหลดไวขึ้น โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้
- 4 ระดับการบีบอัดไฟล์ (Auto, High, Medium, Low)
- รองรับไฟล์ Retina และ WebP
- ฟีเจอร์ Lazy Load
- ฟีเจอร์ CDN
- มีให้ใช้งานในเวอร์ชันฟรี
7. TinyPNG
TinyPNG เป็นปลั๊กอินที่นิยมใช้กับไฟล์รูปภาพ JPEG และ PNG โดยเฉพาะ มีฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้
- ฟีเจอร์ Bulk Image Optimization
- การปรับปรุงประสิทธิภาพรูปภาพโดยอัตโนมัติ (Automatic Image Optimization)
- สามารถตั้งค่าขนาดรูปภาพ (Width และ Height) ของรูปภาพที่ต้องการอัปโหลด
- ไม่จำกัดขนาดไฟล์รูปภาพ
8. WP Compress
สำหรับ WP Compress มาพร้อมกับฟีเจอร์มาตรฐาน เช่น
- ฟีเจอร์ Bulk Image Optimization
- ฟีเจอร์ Lazy Load
- การแปลงไฟล์ Formats รูปภาพ WebP
- ฟีเจอร์ CDN
- มีให้ใช้งานในเวอร์ชันฟรี
นอกเหนือจากฟีเจอร์ปรับปรุงประสิทธิภาพรูปภาพแล้ว WP Compress ยังมาพร้อมกับตัวช่วยอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Cilent Reporting, Remote Configuration หรือ Monthly Cilent Quotas เป็นต้น
9. Optimus
สำหรับปลั๊กอิน Optimus เป็นปลั๊กอินที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพบนเว็บไซต์ WordPress โดยเคลมว่าสามารถลดขนาดไฟล์รูปภาพได้มากถึง 70% สำหรับฟีเจอร์เด่นๆ มีดังนี้
- ฟีเจอร์ Bulk Image Optimization
- การปรับปรุงประสิทธิภาพรูปภาพโดยอัตโนมัติ (Automatic Image Optimization)
- รองรับไฟล์ภาพ Retina Image
- สามารถทำงานร่วมกับ WooCommerce ได้
- มีให้ใช้งานในเวอร์ชันฟรี
10. Imsanity
Imsanity เป็นปลั๊กอินเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพบนเว็บไซต์ WordPress ที่มีอินเทอร์เฟซเรียบง่ายและมาพร้อมกับฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
- การปรับปรุงประสิทธิภาพรูปภาพโดยอัตโนมัติ (Automatic Image Optimization)
- สามารถเลือกคุณภาพของไฟล์เป็น JPG ได้หากต้องการ
- สามารถเลือกลบหรือจะเก็บภาพต้นฉบับได้
- ฟีเจอร์ Bulk Image Optimization
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com