โดยปกติในระบบของ Google Ads จะมีแถบรายงาน (Columns) ต่างๆ เพื่อแสดงการวัดผลแคมเปญโฆษณาตลอดเวลา อย่างการดูค่า CTR (Click-through Rate) ว่าขึ้นหรือลดลงไหม หรือมียอดคนดูแคมเปญโฆษณามากน้อยเพียงใด
แต่เมื่อไม่นานมานี้กูเกิลได้อัปเดตฟังก์ชันใหม่ๆ เข้ามาบนฟีเจอร์ Custom Column (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้) ให้นักการตลาดสามารถปรับแต่งหน้าต่างวัดผลให้ละเอียดหรือลึกมากขึ้น ที่จะทำให้ชีวิตของนักการตลาดง่ายขึ้น สำหรับในบทความนี้จะพามาดูฟังก์ชันต่างๆ ว่ามีอันไหนที่น่าสนใจและมีวิธีการใช้งานอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย
Custom Column มีฟังก์ชันอะไรใหม่?
มาทบทวนกันอีกสักรอบสำหรับฟังก์ชันที่ถูกเพิ่มเข้าใหม่บน Custom Column มีดังนี้
- ฟังก์ชัน Spreadsheet
- ระบบคำนวณและเปรียบเทียบเมตริกตามช่วงวันที่ (Date Range)
- เพิ่มตัวเลือกในการอ้างอิงคอลัมน์แบบกำหนดเองโดยสามารถใช้สูตรต่างๆ ได้
- สามารถกรองตัวแปร (Filter Ability) ที่กำหนดเองสำหรับข้อมูลค่า Conversions
- เพิ่มรูปแบบคอลัมน์ใหม่ เช่น Date, Text และ True/False
- สามารถเรียกดูคอลัมน์ที่ไม่ต้องใช้สูตรได้ เช่น ชื่อแคมเปญ, งบประมาณ และอื่นๆ
ต่อไปนี้คือภาพตัวอย่างการแสดงผลของ Custom Column แบบภาพรวม
จากในภาพด้านบนเป็นภาพตัวอย่างการใช้ฟังก์ชัน Spreadsheet ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างคอลัมน์ต่างๆ โดยใช้คำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
- Arithmetic
- Logic
- Text
- Date
(ดูคำสั่งที่เกี่ยวข้องพิ่มเติมได้ที่นี่)
นอกจากนี้ฟีเจอร์ Custom Column ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Reporting Tools อื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- Report Editor
- แดชบอร์ดใน Google Ads
ด้วยความสามารถในการใช้ Custom Column ร่วมกับการแสดงผล Reporting Tools อื่นๆ จะช่วยให้นักการตลาดสามารถติดตามรายละเอียดความซับซ้อนต่างๆ ของแคมเปญโฆษณาได้ดีและสะดวกมากขึ้น
วิธีการสร้าง Custom Column
เมื่ออยู่ในหน้า Google Ads ให้คลิกปุ่ม “Columns” บริเวณขวาบน จากนั้นให้คลิกไปที่ “Modify Columns”
และจะพบตัวเลือกในการสร้าง “Custom Column”
จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะเลือกใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ในการสร้างเมตริกที่จะช่วยวัดผลแคมเปญโฆษณาที่ตรงกับความต้องการได้ทันที
อย่างแรกคือการกำหนดชื่อของ Custom Column ก่อน โดยมีความยาวไม่เกิน 180 ตัวอักษร
อย่างไรก็ตาม กูเกิลรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่อยู่ดีๆ จะให้ผู้ใช้งานมานั่งเลือกใช้ฟีเจอร์ต่างๆ หากไม่มีประสบการณ์มาก่อน บอกได้เลยว่ามีนั่งงงแน่นอน ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้กูเกิลจึงเพิ่มฟังก์ชัน Formula Ideas ที่เป็นตัวช่วยสำเร็จรูปในการสร้างเมตริกวัดผลต่างๆ เพื่อให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ในทันที ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือของภาพตัวอย่างด้านบน
สรุป
ด้วยการที่ผู้ใช้งานสามารถกำหนดคอลัมน์การแสดงการวัดผลต่างๆ ได้แบบอิสระ โดยไม่มีการมาจำกัดเหมือนสมัยก่อน จะทำให้นักการตลาดมีความยืดหยุ่นและอิสระในการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกแบบละเอียดบนแคมเปญโฆษณาได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่น การกำหนดค่าคอลัมน์เพื่อที่จะวัดผลลัพธ์การคลิกจากมือถือว่ามีสัดส่วนเท่าไหร่จากการคลิกทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนแคมเปญนั้น เพื่อที่จะทราบผลงานของการรันแคมเปญว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะทำให้สามารถนำข้อมูลไปตัดสินใจการลงทุนโฆษณาเพิ่มเติมหรือนำไปปรับปรุงได้ นักการตลาดท่านใดที่ใช้ Google Ads เป็นเครื่องมือหลักแล้วยังไม่ได้ทดลองใช้ฟีเจอร์ Custom Column รูปแบบใหม่นี้ ถ้าอ่านบทความนี้จบแล้วแนะนำว่าไปลองใช้ดูได้เลย รับรองว่าไม่มีผิดหวัง!
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com