Internal Link คือ หนึ่งในกลยุทธ์ SEO ที่ทรงพลังที่สุด แต่กลับถูกมองข้ามบ่อยครั้ง ในขณะที่หลายคนอาจให้ความสนใจการสร้างลิงก์จากภายนอก แต่การใช้ Internal Link อย่างถูกต้องถือเป็นปัจจัยที่สามารถผลักดันเว็บไซต์ของคุณให้ติดอันดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทาง Google เองได้เน้นย้ำเสมอว่า Internal Link มีความสำคัญมาก โดย John Mueller จาก Google เคยกล่าวไว้ว่า Internal Link คือ สิ่งสำคัญสุดยอด สำหรับความสำเร็จในการทำ SEO
อย่างไรก็ตาม การทำ Internal Link ก็มีข้อควรระวังมากมาย ในบทความนี้ มาดูเคล็ดลับการใช้ Internal Link อย่างไรให้มีประสิทธิภาพจากข้อควรระวังที่เสี่ยงทำให้ SEO ไม่ประสบความสำเร็จ
Internal Link คืออะไร?
Internal Link คือ ลิงก์บนหน้าเว็บไซต์ที่เชื่อมไปยังหน้าอื่นๆ ภายเว็บไซต์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง Traffic ภายในเว็บไซต์ ทำให้ผู้ใช้งานอยู่ในหน้าเว็บไซต์นานขึ้น ลดอัตรา Bounce Rate ซึ่งมีผลดีคือ ทำให้ Google ตรวจจับได้ว่าเว็บไซต์นี้มีประสิทธิภาพ สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้
โดย Internal Link จะมี Anchor Text เป็นข้อความที่ปรากฏบนหน้าเว็บและใช้เป็นจุดคลิกของ Internal Link นั้น เพื่อนำผู้ใช้งานไปยังหน้าเพจปลายทางที่เกี่ยวข้อง
ข้อควรระวังในการทำ Internal Link
ข้อควรระมัดระวังในการทำ Internal Link เพื่อช่วยให้ทำเว็บไซต์มีประสิทธิภาพ ดังนี้
1. การใช้ Anchor Text ที่ไม่สื่อความหมาย
เวลาทำ Internal Link ควรใช้คำที่บอกว่า เราอยากให้หน้านั้นติดอันดับด้วยคำไหน เช่น ถ้าอยากติดคำว่า “สูตรเค้กชาเขียว” ก็ควรใช้คำนี้หรือคำใกล้เคียงเป็น Anchor Text แทนที่จะใช้คำทั่วไปอย่าง “คลิกที่นี่” หรือ “ดูสูตรนี้” ดังนั้น เมื่อทำ Internal Link ควรใช้ Anchor Text ที่อธิบายได้ชัดเจนว่ากำลังลิงก์ไปยังเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งจะช่วยให้ทั้งผู้ใช้และ Google เข้าใจว่าคุณต้องการจัดอันดับและทำ Index สำหรับคำค้นใด
2. การใช้ Anchor Text ซ้ำซ้อน
การใช้ Anchor Text เดียวกันในหลายหน้าเว็บไซต์อาจส่งผลเสียต่อการจัดอันดับ เช่น หากมีสูตรเค้กช็อกโกแลต 4 สูตร แล้วใช้ Anchor Text “เค้กช็อกโกแลต” ทั้งหมด อาจทำให้ไม่มีสูตรไหนติดอันดับสูงหรือติดอันดับเลย ปัญหานี้ เรียกว่า “การแย่งชิงอันดับจากการลิงก์ภายใน” ซึ่ง Google จะจำกัดจำนวนผลการค้นหาจากเว็บไซต์เดียวกันสำหรับคำค้นเฉพาะ โดยวิธีแก้ปัญหานี้ของ Internal Link คือ ปรับ Anchor Text ให้แตกต่างกัน เช่น “เค้กช็อกโกแลตหวานน้อย” “เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม” หรือ “เค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง” การทำเช่นนี้จะช่วยให้แต่ละหน้าสามารถติดอันดับได้ดีขึ้น
3. การใส่ลิงก์ในส่วน Footer มากเกินไป
Footer ควรมีแค่ลิงก์ที่จำเป็น เช่น หน้า About, Contact, นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือลิงก์โซเชียลมีเดีย อย่าใส่ลิงก์เยอะเกินไปเพราะอาจดูเป็นสแปมได้
4. การลิงก์ไปยังหน้าที่ Noindex
การลิงก์ไปยังหน้าที่ Noindex เป็นการเสียโอกาสในการส่งต่อค่า Link Equity ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าลิงก์ภายในของคุณชี้ไปยังหน้าที่ต้องการให้ Google จัดอันดับจริง ๆ
5. ไม่แก้ไขลิงก์เสีย (404 และ 503)
ลิงก์เสียไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกหงุดหงิด แต่ยังขัดขวางการไหลเวียนของ PageRank ด้วย ควรใช้เครื่องมืออย่าง Broken Link Checker หรือ Semrush เพื่อตรวจหาและแก้ไขลิงก์เสียอย่างสม่ำเสมอ
6. การใช้ระบบอัตโนมัติในการสร้าง Internal Link
แม้ว่าจะมีปลั๊กอินหรือเครื่องมือที่ช่วยสร้าง Internal Link อัตโนมัติ แต่การทำแบบนี้อาจทำให้เกิดการสแปมโดยไม่ตั้งใจได้ แนะนำให้สร้าง Internal Link ด้วยตัวเองอย่างมีกลยุทธ์จะดีกว่า
7. การ Redirect ภายใน
หากคุณเปลี่ยน URL ของหน้าเว็บ อย่าลืมอัปเดตลิงก์ภายในทั้งหมดด้วย มิฉะนั้นอาจเกิดการ Redirect หลายทอด ซึ่งส่งผลเสียต่อ SEO และความเร็วของเว็บไซต์ได้
8. ไม่ให้ความสำคัญกับตำแหน่งของลิงก์
ลิงก์ที่อยู่ในเนื้อหาและอยู่ส่วนบนของเพจมักมีความสำคัญกว่าลิงก์ในส่วนอื่น ๆ ดังนั้น พยายามวางลิงก์ในตำแหน่งที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับเนื้อหา
9. มีหน้าที่ไม่มีลิงก์เข้า (Orphaned Content)
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกหน้าในเว็บไซต์ของคุณมีลิงก์เข้าอย่างน้อย 3-5 ลิงก์ หน้าที่ไม่มีลิงก์เข้าเลยอาจทำให้ Google ไม่เห็นความสำคัญและไม่จัดอันดับหน้านั้น
สรุป
Internal Link คือ การเชื่อมโยงระหว่างหน้าเว็บภายในเว็บไซต์เดียวกัน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ SEO ที่สำคัญมากแต่มักถูกมองข้าม การระมัดระวังข้อผิดพลาดต่างๆ เช่น การใช้ Anchor Text ที่ไม่เหมาะสม การลิงก์ซ้ำซ้อน หรือการละเลยการแก้ไขลิงก์เสีย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Internal Link ได้อย่างมาก นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับตำแหน่งของลิงก์ หลีกเลี่ยงการใช้ระบบอัตโนมัติ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกหน้าเว็บมีลิงก์เข้า การทำ Internal Link อย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้และโอกาสในการติดอันดับสูงบน Google อีกด้วย
เกี่ยวกับ Relevant Audience
พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)
บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาทำการตลาดออนไลน์
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com