หนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้หลายเว็บไซต์ประสบความสำเร็จในการจัดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล โครม (Google Chrome) ไมโครซอฟต์ เอดจ์ (Microsoft Edge) และอื่นๆ คือ การทำ Backlink
ในบทความนี้ Relevant Audience ขอมาแจก 7 วิธี การทำ Backlink ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณพิชิตการจัดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา
การทำ Backlink คืออะไร?
Backlink คือ ลิงก์ที่นำผู้ใช้งานจากอีกเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง โดยอาจอยู่ในรูปแบบข้อความ รูปภาพ หรือ URL ซึ่งหลักการทำงานของเสิร์ช เอนจิน (Search Engine) บนเครื่องมือการค้นหาจะประเมินว่า Backlink เปรียบเสมือนการโหวต หากเว็บไซต์หนึ่งมี Backlink จากเว็บอื่นๆ มาก เว็บไซต์นั้นจะถูกสรุปว่า เป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง
อย่างไรก็ตาม เสิร์ช เอนจินไม่ได้ประเมินความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์จากจำนวน Backlink เพียงอย่างเดียว แต่ยังพิจารณาถึงคุณภาพของ Backlink ร่วมด้วย
7 วิธีการทำ Backlink
การทำ Backlink ที่มีคุณภาพอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสียทีเดียว แต่สามารถเริ่มต้นได้ไม่ยาก โดย 7 วิธีการทำ Backlink คุณภาพ ได้แก่
1. เป็นแหล่งอ้างอิงให้กับผู้สื่อข่าวและบล็อกเกอร์
Help a B2B Writer และ Featured.com เป็นเครื่องมือจับคู่ระหว่างผู้ที่ต้องการสร้าง Backlink กับผู้สื่อข่าวหรือบล็อกเกอร์ที่ต้องการแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ โดยผู้ที่ต้องการสร้าง Backlink จะมีบทบาทในการส่งข้อมูลให้กับผู้สื่อข่าวหรือบล็อกเกอร์ เพื่อนำไปใช้เป็นแหล่งอ้างอิงในการเผยแพร่เนื้อหาลงบนเว็บไซต์
2. เผยแพร่เนื้อหาที่โดดเด่น
การสร้างเนื้อหาที่โดดเด่นกว่าเว็บไซต์อื่นๆ สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงค้นหาคีย์เวิร์ดที่ต้องการเขียนบนเครื่องมือการค้นหา แล้วพิจารณาจากเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้นๆ ว่า เนื้อหาของเว็บไซต์เหล่านั้นยังมีจุดบกพร่องอะไร และจะสามารถทำให้ดีกว่าได้อย่างไร หลังจากนั้นให้เผยแพร่เนื้อหาที่กว่า 5 หรือ 10 เท่า ภายใต้คีย์เวิร์ดเดียวกัน
3. มองหา Backlink ที่ใช้การไม่ได้แล้ว
มองหา Backlink ที่ใช้การไม่ได้แล้วบนเว็บไซต์อื่นๆ เช่น Backlink ที่มีการย้ายโดเมน หลังจากนั้นติดต่อกับผู้ดูแลเว็บไซต์ เพื่อแจ้งว่า Backlink ที่อยู่บนเว็บไซต์นั้นๆ ไม่สามารถใช้การได้แล้ว และแนะนำให้ใช้ Backlink มาที่เว็บไซต์ของคุณแทน
4. สร้างเนื้อหาจากแนวโน้มความนิยม
เนื้อหาบางประเภทมีแนวโน้มได้รับ Backlink มากกว่าเนื้อหาประเภทอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ เช่น เนื้อหาประเภท “ทำไม” ได้รับความนิยมมากที่สุด รองลงมา คือ เนื้อหาประเภท “อะไร” และเนื้อหาประเภทอินโฟกราฟิก และวิดีโอตามลำดับ
5. เผยแพร่เนื้อหาที่ครอบคลุม
การเผยแพร่เนื้อหาที่ครอบคลุมทุกด้านภายใต้คีย์เวิร์ดนั้นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlink เพราะเนื้อหาสามารถเป็นแหล่งอ้างอิงให้กับเว็บไซต์อื่นที่ใช้คีย์เวิร์ดเดียวกันได้ในหลายแง่มุม
6. เนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร
เนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร และมีความเป็นเอกลักษณ์สูงจะได้รับการกล่าวถึง หรืออ้างอิงถึงมากกว่าเนื้อหาทั่วไป เช่น เว็บไซต์ด้านการตลาดที่เผยแพร่เทคนิคด้านการตลาด โดยตั้งชื่อเทคนิคนั้นว่า เทคนิคเข็น SEO ขึ้นภูเขา
7. สร้างพันธมิตรกับเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง
การได้ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณถูกจัดเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือตามไปด้วย โดยอาจเริ่มต้นจากการติดต่อกับผู้ดูแลเว็บไซต์นั้นๆ และแนะนำการใส่ Backlink มายังเว็บไซต์ของคุณภายใต้หัวข้อที่เกี่ยวข้องกัน
นอกจากการทำ Backlink คุณภาพ การจะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ในหน้าผลลัพธ์การค้นหาบนเครื่องมือการค้นหายังต้องอาศัยอีกหลายปัจจัย ทั้งประสิทธิภาพของเว็บไซต์ การเลือกคีย์เวิร์ด และอื่นๆ ซึ่งต้องใช้ทั้งเวลาและความทุ่มเท
เกี่ยวกับ Relevant Audience
พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)
บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาทำการตลาดออนไลน์
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com