ล่าสุดกูเกิลได้โพสต์วิดีโอที่จะมาช่วยแนะนำเคล็ดลับให้ผู้ประกอบการมือใหม่ทุกคนที่กำลังเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ E-Commerce สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์มีความโดดเด่นกว่าใคร
โดยในบทความนี้เราได้รวบรวมไฮไลท์ที่สำคัญของคลิปวิดีโอมาให้ทุกคนได้ทราบกันซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 องค์ประกอบหลักๆ ดังนี้
- รูปภาพสินค้าที่ดีจะช่วยให้ผู้คนเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น
- คะแนน Feedback Score ช่วยในเรื่องความไว้วางใจต่อแบรนด์
- ราคาและความพร้อมในการจำหน่ายสินค้าช่วยให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ E-Commerce ลองมาดูเคล็ดลับต่างๆ เหล่านี้ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นยิ่งกว่าคู่แข่งเจ้าไหนในตลาด ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย
1. Title Tags
หนึ่งในองค์ประกอบของหน้าเว็บไซต์ที่อัลกอริทึมของกูเกิลให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ เสมอ นั่นคือ Title Tag เนื่องจากเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ใช้ในการสื่อสารและดึงดูดลูกค้า เพราะ Title Tag หรือชื่อหัวข้อนี้เป็นสิ่งแรกที่ผู้คนทั่วไปจะได้อ่าน ดังนั้นต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้คีย์เวิร์ดประกอบ ปรับให้สั้นกะทัดรัด อ่านแล้วเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน นอกจากนี้อีกหนึ่งเคล็ดลับคืออย่าลืมใช้เว็บไซต์ Google Search เพื่อตรวจสอบ Title Tag ของเว็บไซต์เสมอว่ามีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่
2. รูปภาพคุณภาพสูง
สำหรับรูปภาพที่ใช้ในเว็บไซต์ E-Commerce นั้นยิ่งมีคุณภาพที่สูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้รับชมมากขึ้นเท่านั้น และยังมีโอกาสที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ได้อีกด้วย โดย Alan Kent ผู้เป็น Developer Advocate (E-Commerce) ให้ความเห็นว่าไว้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปมักมีการตอบสนองได้ดีกับรูปภาพที่มีคุณภาพสูง และแนะนำว่าควรมีขนาดความกว้างขั้นต่ำที่ 1,200 พิกเซล
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้รูปภาพต้องไม่ลืมขั้นตอนการทำ Image Optimized เพื่อไม่ให้ไฟล์รูปภาพมีขนาดที่ใหญ่เกินไปจนส่งผลกระทบให้เว็บไซต์เกิดอาการช้า อืด หน่วง จนทำให้เกิดประสบการณ์ใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่ดีต่อผู้ใช้งาน (สามารถอ่านรายละเอียดการทำ Image Optimizer เพิ่มเติมได้ที่นี่)
3. ให้รายละเอียดสินค้าที่หลากหลาย ผ่าน Rich Snippets
Rich Snippet คือรูปแบบการแสดงผลรายละเอียดสินค้าอย่างหนึ่ง โดยจะเป็นการแสดงผลในหน้า SERPs ข้อมูลที่นำมาใช้แสดงผลนี้จะต้องเป็นข้อมูลที่อยู่ในรูปของ Structured Data เข้ามาช่วย โดยข้อมูลต่างๆ ที่กูเกิลรองรับก็จะมีอยู่ด้วยกันหลากหลาย แต่สำหรับในคลิปวิดีโอที่กูเกิลออกมาแนะนำนี้จะมีองค์ประกอบที่จำเป็นอยู่ด้วยกัน ดังนี้
- ชื่อสินค้า (Product Title)
- คำอธิบาย (Description)
- รูปภาพ (Images)
- คะแนน (Ratings)
- ราคา (Price)
- ความพร้อมใช้งาน (Availability)
4. เชื่อมต่อข้อมูลสินค้าบน Google Merchant Center
Google Merchant Center เปรียบได้กับศูนย์กลางในการอัปโหลดข้อมูลสินค้าเพื่อใช้ในการขายของออนไลน์ รวมถึงการสร้างแคมเปญโฆษณาต่างๆ ในเครือข่ายของกูเกิล อย่างเช่น Google Shopping Ads โดยเริ่มต้นจากการสมัครบัญชี Google Merchant Center และอัปโหลด Product Feed ต่างๆ เข้าไปในระบบ
ข้อมูลสินค้าที่อัปโหลดไปก็จะสามารถระบุรหัสสินค้าที่เรียกว่า GTIN หรือก็คือหมายเลขสินค้าการค้าสากลได้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าค้นหาสินค้าต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ E-Commerce ของคุณได้ง่ายขึ้น (สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรหัสระบุผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่)
5. สร้างโปรไฟล์บน Google Business Profile
อีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยให้เว็บไซต์ E-Commerce ของคุณโดดเด่นกว่าใคร ด้วยการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจของคุณบน Business Profile ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ต่ออัลกอริทึมของกูเกิลมากขึ้น สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับ Google Business Profile เพิ่มเติมอ่านได้ที่นี่
หวังว่าเคล็ดลับที่เราได้สรุปรวบรวมมาจากคลิปวิดีโอแนะนำจากกูเกิลนี้จะช่วยให้การทำธุรกิจ E-commerce ของคุณประสบความสำเร็จ ด้วยการนำมาปรับใช้เป็นแนวทางเริ่มต้น หากใครที่กำลังประสบปัญหาการทำการตลาดออนไลน์อยู่สามารถรับคำปรึกษาจาก Relevant Audience ได้ทันที
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com