เชื่อว่าหลายคนที่กำลังเริ่มต้นทำเว็บไซต์คงหนีไม่พ้นจากการใช้ WordPress ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ยอดนิยมในการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่ใช้งานได้สะดวกและมีปลั๊กอินเสริมคอยช่วยเหลือมือใหม่ที่ต้องการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับการค้นหาลำดับต้นๆ บนหน้า SERPs
อย่างที่บอกว่าเว็บไซต์ที่ถูกสร้างผ่าน WordPress นั้นเหมาะสมกับการทำ SEO ด้วยเหตุผลที่ว่า WordPress ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับนักพัฒนาเว็บไซต์ที่ต้องการทำ SEO โดยเฉพาะ ด้วยปลั๊กอินและเครื่องมืออื่นๆ ดังนั้นในบทความนี้จึงนำ 7 เคล็ดลับที่สามารถทำตามเพื่อปรับปรุงอันดับ SEO บน WordPress เว็บไซต์ รับรองว่ารวดเร็ว ง่าย และการันตีผลลัพธ์ทันที
1. ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ใช้งาน HTTPS แล้วหรือยัง
ต้องบอกว่า “Security” คือหนึ่งในปัจจัยที่กูเกิลให้ความสำคัญในการจัดอันดับเว็บไซต์แม้ว่าอาจจะไม่ได้สำคัญกับเท่าปัจจัยอื่นๆ แต่ก็หากต้องการให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีละก็ห้ามละเลยเด็ดขาด นอกจากนี้การที่เว็บไซต์ไม่มีความปลอดภัยที่มากพอเวลาที่ผู้ใช้งานเข้ามายังเว็บไซต์ก็จะพบกับข้อความประเภท “เว็บไซต์นี้ไม่ปลอดภัย” ทำให้เว็บไซต์มีโอกาสที่จะมีอัตรา Bounce Rate ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อการทำ SEO ในระยะยาวนั่นเอง
ปัจจุบันนี้ หนึ่งในเรื่องพื้นฐานของความปลอดภัยของเว็บไซต์สามารถเช็กได้ง่ายๆ ว่า เว็บไซต์นั้นมีการใช้ HTTPS แล้วหรือยัง ซึ่งเป็นการเข้ารหัสข้อมูลบนเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล หากพบว่าเว็บไซต์ยังไม่ได้ติดตั้ง HTTPS ก็ควรที่จะเริ่มทำทันที โดยมีวิธีดังนี้
- ติดตั้งเองด้วยการหาผู้ให้บริการ SSL Certificates โดยมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
- แจ้งเว็บโฮสติ้งให้ทำให้
2. ปรับปรุง URL
การปรับปรุง URL ให้เข้าใจง่ายไม่ดูรกรุงรัง จะเป็นการช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ง่ายรวมไปถึงอัลกอริทึมของ Search Engine ก็จะสามารถเข้ามารวบรวมข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน
ฉะนั้นการปรับโครงสร้าง URL บน WordPress คือพยายามหลีกเลี่ยงความซับซ้อนต่างๆ ไม่ให้ URL มีความยาวหรือสั้นเกินไป ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานและอัลกอริทึมของกูเกิลเกิดความสับสนได้
3. รู้จักใช้ SEO ปลั๊กอิน
ปลั๊กอินบน WordPress คือหนึ่งในตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับนักการตลาดสาย SEO มือใหม่ทุกคน โดยปลั๊กอินบางตัวมีประสิทธิภาพที่จะช่วยขยายความสามารถทำให้เว็บไซต์ธรรมดาๆ กลายเป็นเว็บไซต์ที่ดูพรีเมียมขึ้นมาได้แบบทันตาเห็น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการเลือกใช้งานปลั๊กอินให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละจุดประสงค์
สำหรับข้อแนะนำในการเลือกใช้ปลั๊กอิน มีดังนี้
- เลือกปลั๊กอินที่มีการอัปเดตต่อเนื่อง เพราะนั่นหมายถึงตัวปลั๊กอินยังถูกแก้ไขบัคต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
- ดูจำนวนที่ถูกติดตั้งและเรทติ้ง หากจำนวนที่ถูกติดตั้งของปลั๊กอินมีเยอะ อาจหมายความว่าปลั๊กอินสามารถนำไปใช้งานได้จริง
- ดู Support Forum ของปลั๊กอินนั้นๆ ว่ามีความ Active มากน้อยแค่ไหน
4. ปรับปรุง Meta Descriptions
Meta Description หรือหลายคนอาจจะคุ้นกับคำว่า Meta Tag ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่มีผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ โดย Meta Descriptions นี้ถูกออกแบบให้เป็นการสรุปรายละเอียด หรือคำอธิบายเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์นั้นให้สั้น มีความกระชับ อ่านแล้วเข้าใจได้ไม่ยากว่าเนื้อหาทั้งหมดกำลังสื่อถึงอะไร
โดยปกติแล้วความยาวของ Meta Description ไม่ควรสั้นหรือยาวจนเกิน หรือไม่ควรเกิน 160 ตัวอักษร นอกจากนี้การใส่ข้อความกระตุ้นความสนใจต่อผู้อ่านด้วยการตั้งคำถาม เชิญชวนสักเล็กน้อย ก็จะเป็นการกระตุกต่อมความรู้อยากเห็นได้ดีเช่นกัน
5. ปรับปรุง Site Speed
อีกหนึ่งองค์ประกอบกับการทำ SEO บนเว็บไซต์ WordPress ที่มีความสำคัญ นั่นคือความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์ ลองคิดง่ายๆ ว่า หากคุณเป็นลูกค้าที่กำลังให้ความสนใจสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ แต่อยู่ดีๆ ก็ไม่สามารถคลิกเพื่อไปหน้าต่อไปได้ หรือต้องรอนานเกินไป แน่นอนว่าโอกาสที่คุณจะเปลี่ยนให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ ที่เจอประสบการณ์ที่ไม่ดีบนหน้าเว็บไซต์ให้กลายมาเป็นลูกค้าก็ย่อมทำได้ยากเช่นกัน
สาเหตุที่ทำให้เว็บไซต์ WordPress ช้า
- ไฟล์รูปภาพหรือวิดีโอ มีขนาดใหญ่เกินไป
- มีปลั๊กอินเยอะเกินไป
- ปัญหาด้านเทคนิคอื่นๆ ของเว็บไซต์
สำหรับวิธีแก้ปัญหาอาจเริ่มต้นด้วยการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นอย่างปลั๊กอินบางตัวที่มีหน้าที่การทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน ในกรณีของไฟล์รูปภาพและวิดีโออาจใช้วิธีการบีบอัดและย่อขนาดไฟล์ เป็นต้น
6. อย่าลืมใช้ Analytics Tools
การทำ SEO ที่ดีคือการคอยประเมินผลลัพธ์ของการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อคอยปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีอยู่เสมอ ดังนั้นการใช้เครื่องมืออย่าง Google Search Console และ Google Analytics 4 รวมไปถึง Bing’s Webmaster Tools จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ได้ในทุกแง่มุมเพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีที่สุด
หากคุณกำลังเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์บน WordPress การทำ SEO อาจเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถ อย่างไรก็ตามถ้าได้ลองคำนึงถึง 7 เคล็ดลับข้างต้นรับรองได้เลยว่าตลอดเส้นทางการทำ SEO ของคุณจะเป็นการเดินทางด้วยการมีพื้นฐานในการเริ่มต้นที่เหมาะสมและจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในตอนท้ายอย่างแน่นอน
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com