การตลาดดิจิตอล

6 วิธีใช้ Email Marketing เพื่อเพิ่ม Organic Traffic

June 13, 2022Published By: Relevant Audience
Results Image

หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ไม่ว่าจะพูดจะบอก จะซื้อจะขาย ก็ต้องอีเมลเอาไว้ก่อน” จริงๆ แล้วอีเมลเครื่องมอสื่อสารที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่จดหมาย โดยแทบทุกองค์กรจะต้องมีอีเมลเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการสื่อสารทางธุรกิจ แม้ว่าในปี 2022 อาจจะมีคนที่คิดว่าอีเมลนั้นตายไปแล้ว เนื่องจากการมาถึงของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเต็มรูปแบบ แต่เชื่อเถอะว่าประสิทธิภาพของอีเมลในสมัยก่อนเป็นอย่างไรวันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

หนึ่งในวิธีที่นักการตลาดรุ่นใหม่หลายคนมักมองข้ามคือการทำ Email Marketing หรือ “การตลาดผ่านอีเมล” ในสมัยก่อนหากธุรกิจต้องการติดต่อสื่อสารเพื่อทำการตลาดหรือขยายฐานลูกค้า ทางเดียวที่ทำได้คือการโทรติดต่อสื่อสารแบบดั้งเดิม แต่เมื่ออีเมลถือกำเนิดขึ้น เทคนิคในการทำการตลาดก็เริ่มเปลี่ยนไป การหวังผลบางอย่างจากการส่งอีเมลเป็นเรื่องที่แทบทุกองค์กรต้องการ ไม่ว่าจะเพื่อการสร้างยอดขาย การโปรโมตสินค้าใหม่ การจัดกิจกรรมโปรโมชัน ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ใดๆ ก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ นอกจากการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายแล้ว การทำ Email Marketing ยังสามารถเพิ่มจำนวน Traffic บนเว็บไซต์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ แถมยังเป็น Organic Traffic แบบไม่ต้องเสียเงินโปรโมตสักบาทเดียว และแน่นอนการที่เว็บไซต์มียอดเข้าชมที่สูงเพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์โดยตรง ฟังดูแล้วไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากเกินไปใช่ไหม? ในบทความนี้ได้นำ 6 วิธีการใช้ Email Marketing เพื่อเพิ่มจำนวน Traffic ให้กับเว็บไซต์ รับรองว่าใครที่กำลังทำ SEO อยู่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที 

1. กำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำ

ในการส่งอีเมลหนึ่งครั้ง ควรที่จะมีเป้าหมายไม่เกิน 2 อย่าง ลองถามตัวเองก่อนว่าอีเมลจะถูกส่งไปเพื่ออะไร? เช่น อยากให้กลุ่มเป้าหมายเปิดอ่านบทความ อยากเพิ่มยอดขายสินค้า หรือแค่เป็นการแจ้งเตือนเฉยๆ 

นอกจากนี้ให้จำเอาไว้เลยว่าสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดสำหรับการทำ Email Marketing คือการได้มาซึ่งลิสต์รายการอีเมลต่างๆ โดยที่ไม่มีที่มาที่ไป อย่างการไปซื้อหรือการได้รับข้อเสนอจากใครก็ตาม สาเหตุคือกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นอาจไม่ได้อนุญาตให้ส่งอีเมลไปหาพวกเขา ทำให้ในท้ายที่สุดจุดหมายปลายทางของอีเมลจะไปจบลงที่โฟลเดอร์ถังขยะนั่นเอง

2. ทำความเข้าใจ User Intent

จะรู้ได้อย่างไรว่าอีเมลที่กำลังจะกดส่งไปนั้น จะเป็นที่ถูกใจกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ต่อให้เขียนหัวอีเมลที่สร้างแรงดึงดูดได้ดีที่สุดในโลก แต่หากสาระสำคัญของเนื้อหาในอีเมลไม่สามารถให้คุณค่าหรือประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้จริง

โดยประเภทของการส่งอีเมลสามารถแบ่งได้ง่ายๆ ทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ

  • Navigational Email โดยส่วนมากจะพบอีเมลนี้ในรูปแบบของการนำทางกลุ่มเป้าหมายไปยังเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง เช่น ในกรณีอย่างการแจ้งอัปเดตประกาศสำคัญๆ หรือมีการเปิดให้บริการอะไรใหม่ๆ เป็นต้น
  • Informational Email เป็นอีเมลที่ให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ โดยอาจจะเกิดการยินยอมพร้อมใจในการสมัครติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากทางเว็บไซต์โดยตรง
  • Transactional Email สำหรับอีเมลรูปแบบนี้จะเป็นอีเมลที่ถูกส่งให้เป็นรายบุคคล ส่วนใหญ่จะพบในอีเมลจากเว็บไซต์ Ecommerce ที่มักจะส่งมาทันทีเวลาที่สั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ ที่จะมีการส่งอีเมลแจ้งข้อมูลต่างๆ ทั้งราคา เลข Invoice หรือรายละเอียดการจัดส่ง โดยจะเป็นข้อมูลเฉพาะเท่านั้น 

เมื่อรู้ดังนี้แล้วการเลือกใช้รูปแบบอีเมลให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกในการที่จะใช้อีเมลเป็นตัวแทนในการเชื่อมระหว่างเว็บไซต์และกลุ่มเป้าหมายของคุณ

3. ใช้ E-Newsletters 

เมื่อรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายกำลังมองหาอะไร ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะสามารถสร้างเนื้อหาให้ตอบโจทย์ความต้องการ หากแบรนด์สนใจวิธีการในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเดิมให้มากขึ้น การใช้ E-Newsletters หรือจดหมายข่าวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เหมาะสำหรับการแชร์ข่าวสาร เคล็ดลับ แคตตาล็อกสินค้าหรือบริการใหม่ๆ  ที่สำคัญคืออย่าลืมหน้า Landing Page เพื่อรองรับความสนใจเพิ่มเติม เป็นการสร้างความสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมายรู้สึกอยากมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ ในอนาคต เป็นต้น

4. นำ Social Media มาช่วย

นักการตลาดหลายคนคงรู้กันดีว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพที่ดีแค่ไหนสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน ในขณะที่ Email Marketing ก็เป็นเทคนิคการตลาดที่อยู่คู่ฟ้าท้าแดดมาครึ่งศตวรรษ จะให้ตัดทางใดทางหนึ่งออกและลดการสื่อสารเหลือเพียงแค่ทางเดียวก็คงเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป 

แต่เชื่อหรือไม่ว่าถ้าหากลองนำสองแนวทางนี้มาผสมผสานกันก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดออนไลน์ได้แบบคาดไม่ถึงแน่นอน ลองนึกภาพตามว่า Email นั้นเปรียบเสมือนประตูที่เชิญชวนผู้คนให้เข้ามายังเว็บไซต์ ดังนั้นการใส่ช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ลงไปในส่วนหนึ่งของอีเมลก็จะทำให้เป้าหมายเข้าถึงธุรกิจได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน 

5. รู้จัก Personalized 

ลองคิดดูว่าหากมีอีเมลที่ถูกส่งมาโดยไม่ระบุชื่อผู้รับ จะมีใครที่กดเปิดอ่านหรือไม่? สำหรับเทคนิคการรู้จัก Personalized ที่ดีคืออย่างน้อยต้องรู้จักชื่อจริงหรือชื่อเรียกของผู้รับก่อนที่จะเริ่มส่งอีเมล หรือหากเป็นไปได้การใส่รายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมอย่างชื่อเมืองที่อยู่อาศัย ก็จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของผู้ส่ง ทำให้ผู้รับเกิดความรู้สึกสงสัยและมั่นใจที่จะเปิดอ่านมากขึ้น ซึ่งมีสถิติที่รายงานว่าอีเมลที่มาพร้อมกับความเอาใจใส่ของผู้ส่งด้วยการศึกษาข้อมูลส่วนตัวของผู้รับจะช่วยเพิ่มโอกาส Open Rates และ Click Through ได้ดีกว่าอีเมลที่ไม่มีการระบุข้อมูลของผู้รับ

6. ทดสอบด้วย A/B Testing ก่อนเสมอ 

จริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นการทำ Email Marketing หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ การทำ A/B Testing ถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ควรทำควบคู่กันไปเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด

โดยหลักการทำ A/B Testing ของ Email Marketing นั้นคือการทดลองส่งอีเมลจำนวน 2 แบบ (หรือมากกว่าก็ได้) ไปให้ผู้ติดตามแบรนด์ของคุณ เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ก่อนแล้วลองสังเกตดูว่าอีเมลรูปแบบไหนที่สามารถสร้าง Open Rates และ Click Through Rates ได้ดีกว่า จากนั้นให้ลองยึดรูปแบบนั้นแล้วส่งอีเมลไปให้กลุ่มคนที่เหลือ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ SEO ด้วยการทดลองใส่คีย์เวิร์ดต่างๆ ลงไปในเนื้อหาหรือหัวเรื่อง เพื่อดูว่ารูปแบบไหนจะมีประสิทธิภาพที่ดีต่อ SEO มากกว่ากัน

รับรองได้เลยว่า 6 ข้อด้านบนนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที ถึงเวลาที่แบรนด์และนักการตลาดจะลองนำเทคนิค Email Marketing ผสานเข้าไปในแผนการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้จำนวน Traffic บนเว็บไซต์กันแล้ว 

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Related Articles

If you enjoyed reading this article, you might like these too.

WordPress Hooks คืออะไร? เพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ได้อย่างไร?
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

July 24, 2024

WordPress Hooks คืออะไร? เพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ได้อย่างไร?
WordPress hooks คืออะไร? ในวงการเว็บไซต์ พูดได้ว่า WordPress เป็นหนึ่งในระบบ Content Management (CMS) ที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งมี Market Share มากกว่า 60% ทั่วโลก เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะจำนวน Plugin แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายที่มีให้เลือกใช้งานจำนวนมาก...
อัปเดตโฆษณา AI บน Google Ads! บอกวิธียิงแอดในยุคที่ AI เป็นใหญ่
โฆษณา Google Ads

July 24, 2024

อัปเดตโฆษณา AI บน Google Ads! บอกวิธียิงแอดในยุคที่ AI เป็นใหญ่
ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกวงการ วงการโฆษณาออนไลน์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Google Ads ที่กำลังนำ AI มาใช้ในการพัฒนาระบบโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบอย่างไรต่อนักการตลาดออนไลน์? แล้วเราจะปรับตัวกับโฆษณา AI อย่างไรในก้าวทันคู่แข่ง? ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายถึงผลกระทบของโฆษณา AI ต่อแคมเปญ PPC โดยรวม...
Google Trends คืออะไร? ส่องเคล็ดลับการใช้เทรนด์เพิ่มประสิทธิภาพ SEO
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

July 23, 2024

Google Trends คืออะไร? ส่องเคล็ดลับการใช้เทรนด์เพิ่มประสิทธิภาพ SEO
คอนเทนต์ตามกระแส หรือเทรนด์เป็นรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในโลกดิจิทัล เนื่องจากมักสร้างการมีส่วนร่วม และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักการตลาดและคอนเทนต์ครีเอเตอร์นิยมใช้เพื่อค้นหาและติดตามกระแส คือ Google Trends ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่า Google Trends คืออะไร และจะนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างคอนเทนต์อย่างไรให้ตอบโจทย์การทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเจาะลึกเทคนิคการใช้เทรนด์เพื่อยกระดับกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ Google Trends คืออะไร...
Martech คืออะไร หากนำมาใช้แล้วจะมีผลต่อ SEO บ้างไหม?
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

July 22, 2024

Martech คืออะไร หากนำมาใช้แล้วจะมีผลต่อ SEO บ้างไหม?
ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การทำ Digital Marketing หรือตลาดดิจิทัลกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกองค์กร แล้วเครื่องมือที่ช่วยให้การทำการตลาดออนไลน์เหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นก็คือ Martech หรือ Marketing Technology นั่นเอง วันนี้เรามาทำความรู้จักกันว่า Martech คืออะไร? มีรูปแบบอย่างไรบ้าง? และอีกหนึ่งสิ่งที่อยากจะมาแชร์คือ Martech สามารถช่วยยกระดับการทำ SEO...