ในปี 2022 กลยุทธ์การตลาดในโลกออนไลน์มีอยู่หลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการทำ “วิดีโอมาร์เกตติ้ง” ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอคอนเทนต์ขนาดสั้น-ยาว คุณก็สามารถพบเจอได้แทบทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อสัก 10 ปีที่แล้วเคยมีคำพูดที่ว่า “วิดีโอคอนเทนต์คืออนาคตของการตลาดออนไลน์” ในตอนนั้นหลายคนอาจยังคงรู้สึกลังเลว่าจะเป็นเรื่องจริงได้แค่ไหน แต่หากดูทิศทางของเทรนด์ธุรกิจในปัจจุบันต้องบอกว่าคำพูดนั้นคงเป็นเรื่องที่ไม่เกินจริงแต่อย่างใด
ในบทความนี้จะพามาดูสถิติที่ถูกรวบรวมโดย Oberlo เกี่ยวกับการทำการตลาดแบบวิดีโอมาร์เกตติ้งในปี 2022 ที่จะช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่นักการตลาดทุกคนจะหันมามองเทรนด์การทำวิดีโอคอนเทนต์ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1. ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตนิยมดูวิดีโอคอนเทนต์มากขึ้น
ต้องบอกว่าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมีการเสพวิดีโอคอนเทนต์เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2020 มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่นิยมการดูวิดีโอคอนเทนต์มากถึง 244.4 ล้านคนทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงเกินกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์คาดการณ์ไว้มาก
2. ความต้องการรับชมวิดีโอคอนเทนต์เพิ่มสูงขึ้น
จะเห็นได้ว่าในตอนนี้วิดีโอคอนเทนต์ไม่ได้ถูกจำกัดเพียงเพื่อความบันเทิงสำหรับกลุ่มคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลไปถึงแบรนด์และนักการตลาดอีกด้วย จากการสำรวจโดย Hubspot ในปี 2018 พบว่าผู้บริโภคทั่วไปต้องการดูเนื้อหาประเภทวิดีโอคอนเทนต์จากแบรนด์ที่พวกเขาสนับสนุนหรือแบรนด์ที่ชอบมากขึ้น
ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคจึงเห็นได้ว่าทุกกลุ่มธุรกิจเน้นการผลิตวิดีโอคอนเทนต์ประเภทต่างๆ ในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้
3. วิดีโอคอนเทนต์เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง
อย่างที่บอกว่าความต้องการเสพเนื้อหาวิดีโอคอนเทนต์ที่เพิ่มมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกกลุ่มธุรกิจต่างๆ เริ่มที่จะใช้วิดีโอคอนเทนต์เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ โดยสถิติที่รวบรวมโดย Wyzowl ในปี 2021 ระบุว่า 86% ของนักการตลาดใช้วิดีโอคอนเทนต์เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาด ซึ่ง 78% ของนักการตลาดระบุตรงกันว่าวิดีโอคอนเทนต์เป็นตัวช่วยที่เพิ่มยอดขายให้กับสินค้าหรือบริการได้โดยตรง และยังเพิ่มโอกาสในการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้นอีกด้วย
4. ผู้บริโภคชอบดูวิดีโอคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
จากการสำรวจโดย Animoto ในปี 2018 พบว่า 73% ของผู้บริโภค ได้รับอิทธิพลจากวิดีโอคอนเทนต์ในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจากแบรนด์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่าวิดีโอคอนเทนต์ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เห็นได้จากแพลตฟอร์ม TikTok, IG Reels หรือ YouTube Shorts ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
5. ความนิยมวิดีโอคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้น
ในปี 2019 ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ยสัปดาห์ละ 6.48 ชั่วโมงในการดูคลิปวิดีโอออนไลน์ โดยเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมากถึง 59% เมื่อเทียบกับปี 2016 โดยในแง่ของการใช้งานรายวัน ในปัจจุบันพบว่าการบริโภควิดีโอคอนเทนต์เฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 84 นาทีต่อวัน และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
6. YouTube เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับวิดีโอคอนเทนต์
จากสถิติข้างต้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวิดีโอคอนเทนต์เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน คำถามคือ แพลตฟอร์มใดที่นักการตลาดมุ่งเน้นในการทำวิดีโอมาร์เก็ตติ้ง?
การเก็บสถิติล่าสุดโดย Wyzowl ในปี 2021 พบว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักการตลาดในการเผยแพร่วิดีโอคอนเทนต์ ตามมาด้วย Facebook และที่น่าแปลกใจคือ LinkedIn ที่ตามมาเป็นอันดับสามโดยแซงหน้าแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้ง Instagram และ Twitter
ทั้งหมดคือสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสถิติการทำการตลาดผ่านวิดีโอคอนเทนต์ในปี 2022 นี้ และหวังว่าจะช่วยให้ความกระจ่างต่อกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ และมองหาจุดที่สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มโอกาสในการขาย และขยายฐานลูกค้าให้กับแบรนด์มากขึ้น
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com