ป๊อปอัปโฆษณาตัวคั่นหน้าเป็นสิ่งที่นักการตลาดทั่วโลกทั้งรักทั้งเกลียด มีสถิติที่บอกว่าป๊อปอัปโฆษณาเหล่านี้สามารถเพิ่มค่า Conversion Rate ให้กับเว็บไซต์ได้มากถึง 11.09% แต่การใช้ป๊อปอัปก็มีความเสี่ยงที่ตามมาเช่นกัน เพราะนับตั้งแต่กูเกิลประกาศว่าจะมีบทลงโทษเว็บไซต์ที่มีป๊อปอัปโฆษณาคั่นหน้าตั้งแต่ปี 2018 ก็ทำให้นักการตลาดหลายคนระมัดระวังหรือบางรายถึงกับเลิกใช้เพื่อลดผลกระทบของปัญหาที่อาจตามมาไปเลย ดังนั้นบทความนี้จะมาช่วยชี้แจงแถลงไขความลับบางประการเกี่ยวกับป๊อปอัปโฆษณาตัวคั่นหน้าเหล่านี้กัน ด้วยเคล็ดลับ 5 อย่าง ใช้ป๊อปอัปอย่างไรไม่ให้โดนกูเกิลลดการมองเห็น ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
1. มีป๊อปอัปโฆษณาแบบไหนบ้าง ที่กูเกิลไม่ชอบ
Interstitial หรือโฆษณาตัวคั่นหน้า แท้จริงแล้วคำนี้เป็นคำกว้างๆ ที่ถูกนักการตลาดใช้เรียกอย่างแพร่หลายกับป๊อปอัปโฆษณา ในบางครั้งก็หมายถึงโฆษณาที่ซ้อนทับเนื้อหาสำคัญ แต่โปรดจำไว้อย่างหนึ่งว่าทุกป๊อปอัปโฆษณาคั่นหน้าไม่ได้จะถูกกูเกิลลงโทษเหมือนกันทุกอันเสมอไป
แน่นอนว่าหากป๊อปอัปโฆษณาบนเว็บไซต์มีลักษณะเป็นสแปม หรือมีความพยายามที่จะบดบังหรือลดประสบการณ์ในการรับชมเนื้อหาที่สำคัญต่างๆ ก็มีโอกาสจะถูกกูเกิลมองว่าป๊อปอัปโฆษณาเหล่านั้นเป็นโฆษณาคั่นหน้าที่ควรจะลดการมองเห็น หรือลงโทษตามข้อกำหนด และอย่าลืมว่าตอนนี้กูเกิลมีการอัปเดตบทลงโทษและข้อกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา หากไม่รอบคอบหรือระมัดระวังในการใช้อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์มากกว่าที่คิด
มาดูกันว่าจะมีป๊อปอัปโฆษณาแบบไหนบ้างที่หากกูเกิลเห็นแล้ว พร้อมจะลงโทษทันที
- ป๊อปอัปโฆษณาที่บดบังหรือครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ ที่บังคับให้ผู้ใช้งานต้องกดปิดก่อนถึงจะสามารถอ่านเนื้อหานั้นต่อได้
- ป๊อปอัปโฆษณาคั่นหน้าแบบ Standalone หากใครที่เคยเข้าหน้าเว็บใดเว็บหนึ่งที่ต้องการแล้วพบเจอกับหน้าเพจที่เป็นภาพโฆษณาใหญ่ๆ ระหว่างรอโหลด คงรู้สึกรำคาญกันใช่ไหม กูเกิลก็รู้สึกในทำนองเดียวกัน
- การใช้เลย์เอาท์ที่หลอกลวงก็มีความผิด 1 กระทง กล่าวคือ หน้าเพจที่มีครึ่งหน้าบนเป็นเหมือนป๊อปอัปโฆษณา จะทำให้กูเกิลพร้อมลดการมองเห็นทันที
- ป๊อปอัปโฆษณาแบบ Splash Ads ที่รบกวนผู้ใช้งานขณะกำลังไปหน้าอื่นๆ
- ป๊อปอัปโฆษณาที่ชอบเด้งขึ้นมาทันทีเวลาที่ผู้ใช้งานคลิกที่หน้าเพจ
แม้ว่า John Muller ของกูเกิลจะออกมานั่งยันนอนยันว่าโฆษณาคั่นหน้าจะไม่ถูกลงโทษทั้งหมดเสมอไป หากมีความเหมาะสมที่มากพอ แต่อย่างไรก็ตามหากอยากให้เว็บไซต์ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลังก็ต้องพึงระวังกับการพึ่งพาป๊อปอัปโฆษณาเหล่านี้มากจนเกินไป
2. เลือกใช้โฆษณาคั่นหน้าที่ไม่ล่วงล้ำประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
ถ้าป๊อปอัปโฆษณาที่ใช้อยู่ตอนนี้ไม่โดนกูเกิลลงโทษอะไร ก็ไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นที่จะต้องเอาออกจากเว็บไซต์ อย่างที่บอกไปแล้วว่ากูเกิลไม่ได้มองป๊อปอัปโฆษณาคั่นหน้าเป็นสิ่งที่ผิดไปหมดซะทีเดียว อย่างป๊อปอัปประเภทสิ่งที่ต้องแจ้งให้ทราบตามกฎหมายเพื่อคอยจำกัดเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน หรือป๊อปอัปที่คอยแจ้งเตือนการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ และป๊อปอันอื่นๆ เช่น ป๊อปอัปแบบแบนเนอร์ สไลด์อิน อินไลน์และแท็บ เนื่องจากป๊อปอัปเหล่านี้มีสัดส่วนที่เหมาะสมกับหน้าจอ จำไว้ว่าตราบใดที่ปิดได้ง่าย กูเกิลจะไม่มองว่าเป็นเรื่องที่ละเมิดข้อกำหนด
หากไม่แน่ใจว่าป๊อปอัปที่ใช้อยู่ละเมิดข้อกำหนดของกูเกิลหรือไม่ ข้อแนะนำคือหลีกเลี่ยงการใช้ป๊อปอัปขนาดใหญ่แบบเต็มหน้าจอ และหากเป็นไปได้ให้ลองเปลี่ยนไปใช้ป๊อปอัปแบบ Top Banner หรือ สไลด์อิน ที่ไม่เป็นการรบกวนประสบการณ์ของผู้ใช้งานมากจนเกินไป
3. ลองจำกัดเวลาป๊อปอัป
ถ้าเลิกใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องเลิก แต่อย่างน้อยก็ลองออกแบบป๊อปอัปใหม่ด้วยการจำกัดเวลาให้เหมาะสมดู ตัวอย่างเช่น แทนที่จะให้ป๊อปอัปโฆษณาแสดงทันทีที่ผู้ใช้งานเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ ก็ลองปรับเปลี่ยนเป็นแสดงเมื่อผู้ใช้งานคอมเมนต์บนบล็อกเสร็จ
หรือจะลองจำกัดระยะเวลาในการแสดงป๊อปอัปก็ได้ มีสถิติที่บอกว่าป๊อปอัปที่ปิดโดยอัตโนมัติเป็นเวลาสามวินาทีจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าป๊อปอัปโฆษณาที่ให้ผู้ใช้งานปิดเอง
4.หลีกเลี่ยงป๊อปอัป “สีเทาๆ”
สามสิ่งที่เป็นควาจริงไม่มีเปลี่ยนแปลงในโลกนี้คือ ความตาย ภาษี และกูเกิลที่ต้องการอัปเดตสิ่งต่างๆ ให้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานดีขึ้น แม้ว่าโฆษณาป๊อปอัปบางอันดูเหมือนจะละเมิดข้อกำหนดแต่ก็ไม่ถึงกับโดนลงโทษ (ในตอนนี้) อย่างเช่น การนำกล่องแชทบอท ปุ่มแชร์ ปุ่มเปลี่ยนภาษา หรือแม้แต่ Sticky Sidebar มาทำเป็นป็อปอัปโฆษณาคั่นหน้า
แน่นอนว่าหากตัดสินใจที่จะลองใช้ป๊อปอัปเหล่านี้ ก็ต้องรอรับผลที่อาจจะตามมาในอนาคตอันใกล้ได้เลย
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com