หากจะบอกว่า YouTube Ads เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับนักการตลาดที่กำลังมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างแคมเปญโฆษณา ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่เกินจริงแต่อย่างใด แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? อย่างที่รู้กันดีว่า YouTube เป็นช่องทางการค้นหายอดนิยมที่เป็นรองแค่เพียง Google (บริษัทแม่ของตัวเอง) เท่านั้น จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์หรือนักการตลาดที่ต้องการสร้าง Brand Awareness เป็นอย่างมาก
สำหรับมือใหม่ที่กำลังคิดจะสร้างแคมเปญโฆษณาบน YouTube ในบทความนี้จะนำ 4 ข้อผิดพลาดที่ต้องระวังหากกำลังเริ่มต้นทำวิดีโอแคมเปญมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย
1. ระวังค่า Default การแสดงผลโฆษณา
สำหรับใครที่กำลังเริ่มรันวิดีโอแคมเปญบน YouTube อย่าลืมไปเช็กในหน้าการตั้งค่า Network ก่อนเสมอเพราะค่า Default ของ YouTube จะพบว่าวิดีโอแคมเปญของคุณจะถูกตั้งค่าให้ไปแสดงผลบน YouTube Search Result, YouTube Video และบน Display Network โดยอัตโนมัติ
แม้อาจไม่ใช่เรื่องเสียหายใหญ่โตอะไรมากนักหากเป้าหมายของแคมเปญคุณคือการขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Audience) ให้เยอะที่สุด แต่หากต้องการควบคุมปัญหาให้น้อยที่สุด การเปิดการแสดงผลโฆษณาบน Display Network อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุดเสมอไป เพราะอย่าลืมว่าการที่คนเข้าไปใช้งานในเว็บไซต์อื่นๆ พวกเขาตั้งใจที่จะเข้ามาดูเนื้อหาเฉพาะ ไม่ใช่โฆษณาแคมเปญของคุณ ดังนั้นหากงบประมาณของคุณมีจำกัด การปิดการแสดงผลโฆษณาบน Display Network จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ควรทำ อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะขยายการเข้าถึงของผู้คนให้มากขึ้น จะกลับมาเปิดอีกครั้งในภายหลังก็ย่อมทำได้
2. Video Ad Extension จะไม่แสดงผลบนอุปกรณ์ทีวี
สำหรับการทำ Video Action Campaign หรือการนำแคมเปญวิดีโอโฆษณาของแบรนด์มาแสดงในช่องทางต่างๆ ในเครือข่ายของ Google เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยสร้างยอด Traffic และ Conversion ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะสร้างฟอร์มเพื่อนับยอด Lead หรือสร้างปุ่ม CTA (Call to Action) ต่างๆ ขึ้นมา เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้พบเห็นสนใจในแคมเปญโฆษณานั้นเพิ่มขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดที่นักการตลาดมือใหม่หลายคนไม่รู้ นั่นคือส่วนขยายโฆษณาเหล่านี้ไม่สามารถปรากฏในอุปกรณ์ทีวีส่วนใหญ่ได้ ฉะนั้นอย่าลืมที่จะปิดการแสดงผลบน TV Screens เพื่อให้แน่ใจว่างบประมาณกำลังถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด
3. กูเกิลสามารถปรับการแสดงผลโฆษณาในที่ต่างๆ โดยอัตโนมัติ
เมื่อผู้ใช้งานกำหนดเป้าหมายในการแสดงผลโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นบน YouTube Channels, YouTube Videos, Video Lineups, Display Website หรือ Apps อื่นๆ ในเครือข่ายของ Google แต่ตามคำเตือนในภาพตัวอย่างจะเห็นว่าวิดีโอคอนเทนต์จะแสดงเฉพาะบน YouTube หรือ Display Network ที่ตรงกับการกำหนดเป้าหมายอื่นๆ เท่านั้น นั่นหมายความว่า Google Ads มีสิทธิ์ที่จะเพิกเฉยหรือละเว้นต่อเป้าหมายที่ถูกผู้ใช้งานเลือกเอาไว้ และใช้ตัวเลือกอื่นๆ แทนใน Ad Group อย่าง Topics หรือ Audience เป็นต้น จากรายงานพบว่านักการตลาดมือใหม่ได้ใช้จ่ายงบประมาณไปอย่างเปล่าประโยชน์เนื่องจากโฆษณาถูกแสดงในตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจเลือกไว้
4. ไม่ใช่ Display Network ทุกอันที่จะสามารถเล่น Video Ads ได้
สำหรับการเลือกเป้าหมายในการแสดงผลโฆษณาบน Display Network สิ่งที่ต้องระวังคืออย่าลืมที่จะตรวจสอบว่าเว็บไซต์ต่างๆ เหล่านั้นรองรับการแสดงผลวิดีโอคอนเทนต์ด้วยหรือไม่ เพราะกูเกิลจะแสดงผลโฆษณาบนเว็บไซต์ทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของ Display Network ฉะนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าวิดีโอแคมเปญของคุณจะใช้งานได้บนเว็บไซต์จริงๆ อย่าลืมตรวจสอบเว็บไซต์ต่างๆ ที่ถูกเลือกไว้ใน Ad Group ก่อนเสมอ เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาไปแบบสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์
การมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับกระบวนการทำงานของวิดีโอแคมเปญไม่เพียงแต่จะช่วยให้นักการตลาดมือใหม่หลายคนประหยัดงบประมาณเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญตั้งแต่เริ่มต้นอีกด้วย
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com