ใครที่เคยได้ยินคำพูดที่ว่า ใช้เว็บไซต์ WordPress จะมีโอกาสโดนไวรัสและโดนแฮกง่ายกันบ้าง จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มไหนก็ตาม ก็มีสิทธิ์โดนไวรัสหรือโดนแฮกเกอร์เล่นงานกันทั้งนั้น ถ้าหากไม่มีมาตรการป้องกันอย่างรอบคอบ
อย่าลืมว่าการป้องกันไม่ให้เว็บไซต์เกิดปัญหานั้นดีกว่าการมานั่งเสียน้ำตาในวันที่เข้ามาแล้วพบว่าข้อมูลสำคัญๆ หายไปหมดแล้ว ฉะนั้นในบทความนี้จะมาแชร์ข้อมูลดีๆ ที่จะทำให้นักพัฒนาเว็บไซต์มือใหม่หลายคนเรียนรู้ว่าเหตุใดความปลอดภัยของเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องสำคัญและจะมีวิธีไหนที่จะช่วยปกป้องเว็บไซต์ได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย
ทำไมการการอัปเดต Security บน WordPress เป็นเรื่องสำคัญ?
มีรายงานระบุว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 มีการพยายามแฮกรหัสผ่านเว็บไซต์ WordPress มากกว่า 86 พันล้านครั้ง นั่นหมายความว่าโดยเฉลี่ยแล้วจะมี 30,000 เว็บไซต์ที่ถูกแฮกเกอร์เล่นงานทุกวัน ทั้งปัญหาแฮกเกอร์และมัลแวร์ประเภทต่างๆ ส่งผลโดยตรงต่อทุกกลุ่มธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ โดยที่จริงแล้ว 43% ของ Cyber Attack นี้มักมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจขนาดเล็ก และมีเพียง 14% เท่านั้นที่เตรียมความพร้อมรับมือ นอกจากนี้สาเหตุที่เว็บไซต์ WordPress โดนแฮกบ่อย มีหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่มีความรู้เบื้องต้นในการป้องกัน เช่น ไม่ได้อัปเดตระบบหรือปลั๊กอินเป็นระยะเวลานาน เป็นต้น
เริ่มต้นป้องกันด้วยพื้นฐานง่ายๆ
สำหรับใครที่กังวลว่าเว็บไซต์ของเรามีความปลอดภัยที่เพียงพอแล้วหรือไม่? ลองมาทบทวนพื้นฐานง่ายๆ ในการตั้งค่าความปลอดภัยของเว็บไซต์ WordPress กัน ว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง
1.SSL Certificates
SSL Certificates ย่อมาจาก Secure Socket Layer คือใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็ก ที่ถูกผูกไว้กับ Private Key ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หากข้อมูลถูกแฮกเกอร์ดักจับไป ข้อมูลก็ยังมีความปลอดภัยเพราะแฮกเกอร์จะไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลเหล่านั้นได้
การที่เว็บไซต์ใช้ SSL Certificates ถือเป็นมาตรฐานที่เว็บไซต์นับล้านใช้เพื่อปกป้องข้อมูลธุรกรรมออนไลน์ของลูกค้า ฉะนั้น SSL ควรเป็นขั้นตอนแรกต้องทำเพื่อรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ โดย SSL Certificates โดยมากผู้ให้บริการโฮสติ้งส่วนใหญ่จะเสนอให้ใช้งานได้ฟรี จากนั้นอย่าลืมตั้งค่าการใช้งานให้เว็บไซต์บังคับใช้ SSL ด้วยวิธีการทำ Redirect HTTP ไปยัง HTTPS
2.เลือกใช้รหัสผ่านที่มีความรัดกุม
เว็บมาสเตอร์หลายคนชอบละเลยในการเปลี่ยนชื่อ Username ของแอคเคาท์ Admin ซึ่งอาจกลายเป็นเรื่องที่ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงการสุ่มรหัสผ่านได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้การตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยากก็จะช่วยเป็นการปรับปรุงความเข้มงวดและความปลอดภัยของเว็บไซต์ และจะช่วยลดโอกาสที่จะถูกแฮกเกอร์เล่นงานได้ ยิ่งรหัสผ่านแข็งแรงและคาดเดาได้ยากมากเท่าไหร่ โอกาสที่เว็บไซต์จะตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น
3.เสริมการป้องกันด้วย Security Plugin
ปลั๊กอินบน WordPress เป็นหนึ่งในวิธีพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมในการเสริมการป้องกันเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากปลั๊กอินที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยนั้นมีให้เลือกใช้เป็นจำนวนมาก การเลือกปลั๊กอินโดยอิงจากความน่าเชื่อเป็นหลัก ถึงแม้จะมีราคาที่แพงก็จะช่วยให้เว็บไซต์ปลอดภัยมากขึ้น
มาดูกันว่าปลั๊กอินที่เสริมความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์จะมีอะไรบ้าง
- Wordfence Security
- All In One WP Security & FireWall
- iThemes Security
- Jetpack
เว็บไซต์ใครที่ยังไม่มีปลั๊กอินป้องกันเว็บไซต์ก็ลองหยิบไปใช้งานดูสักอัน รับรองว่าปลั๊กอินเหล่านี้จะเป็นเกราะป้องกันชั้นแรกๆ ได้ดีแน่นอน
4.อัปเดต WordPress อย่างสม่ำเสมอ
ในปี 2021 พบว่ามีเว็บไซต์ทั่วโลกอยู่ประมาณ 1.3 พันล้านเว็บไซต์โดยมีเว็บไซต์ราว 455 ล้านรายการที่ถูกสร้างผ่าน WordPress จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เว็บไซต์บน WordPress จะกลายเป็นเป้าหมายหลักสำหรับการโจมตีโดยแฮกเกอร์
เรื่องพื้นฐานที่ทำได้ง่ายๆ ในการเสริมความป้องกัน WordPress ที่ดีที่สุด คือการทำให้เว็บไซต์ WordPress อัปเดตอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยและความเสถียรของเว็บไซต์ เพราะอย่าลืมว่า WordPress จะมีการอัปเดตเวอร์ชันเป็นช่วงๆ โดยแต่ละการอัปเดตก็จะมีทั้งการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมไปถึงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย โดยปิดช่องโหว่ต่างๆ ที่จะเพิ่มความเสี่ยงในการโดนแฮก ฉะนั้นห้ามทิ้งช่วงการอัปเดต WordPress นานเกินไป ควร “อัปเดตทันที ที่มีการปล่อย WordPress เวอร์ชันล่าสุดออกมา”
5.ให้ความสำคัญกับ Theme & Plugins
การอัปเดต WordPress ให้อยู่ในเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอจะเป็นการช่วยให้แน่ใจว่าไฟล์ข้อมูลหลักๆ ของเว็บไซต์จะอยู่ภายใต้การอัปเดตใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยแก้ไขหรือปิดช่องโหว่ต่าง แต่ตัวอัปเดตหลักอาจไม่ได้ครอบคลุมทุกอย่างบนเว็บไซต์ ในกรณีนี้คือ “ธีมและปลั๊กอินบนเว็บไซต์”
การเลือกซื้อธีมและปลั๊กอินต่างๆ จาก Official Site หรือแหล่งที่น่าเชื่อถือ จะเป็นการป้องกันเว็บไซต์ไม่ให้เจอมัลแวร์หรือโค้ดที่จะมาสร้างปัญหาให้กับ WordPress ได้ นอกจากนี้การอัปเดตธีมและปลั๊กอินทุกครั้งที่มีเวอร์ชันใหม่ก็จะช่วยเรื่อง Security บนเว็บไซต์ด้วย
6.ย้ายที่อยู่ไฟล์ wp.config.php
wp.config.php เป็นไฟล์ที่เก็บบันทึกข้อมูลการตั้งค่าสำคัญต่างๆ ของเว็บไซต์ โดยปกติจะถูกวางไว้ที่ Root Directory ซึ่งการย้ายไฟล์นี้ไปไว้ในโฟลเดอร์ต่างๆ ที่ลึกมากขึ้นก็จะช่วยป้องกันการเข้าถึงของแฮกเกอร์ได้ในระดับหนึ่ง และไม่ต้องกังวลในเรื่องของการทำงานของ WordPress เพราะว่าระบบจะสามารถค้นหาไฟล์นี้ได้ไม่ว่าจะถูกนำไปวางไว้ที่ไหนก็ตาม
7.ซ่อนหน้าเข้าสู่ระบบ WP-Admin
หากเว็บไซต์ WordPress ยังใช้ Log In URL แบบดั้งเดิมโดยการเติม “/wp-admin หรือ /wp-login.php” ต่อท้าย URL เพื่อเข้าสู่หน้าระบบจัดการเว็บไซต์อยู่ ก็อาจเป็นเรื่องง่ายที่เว็บไซต์อาจจะถูกแฮกเกอร์ที่คุ้นเคยกับระบบ WordPress อยู่แล้วสามารถสุ่มรหัสผ่านเข้าสู่หลังบ้านของเว็บไซต์ได้ทันที ฉะนั้นการใช้ปลั๊กอิน WPS Hide Login เพื่อซ่อนหน้าเข้าสู่หลังบ้านเว็บไซต์ก็จะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาแฮกเกอร์ได้ในระดับหนึ่ง
8.ปิด XML-RPC
XML-RPC บนเว็บไซต์ WordPress เป็นตัวช่วยในการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างตัว WordPress และระบบอื่นๆ เช่น การโพสต์คอนเทนต์จากแพลตฟอร์มอื่นๆ แล้วคอนเทนต์นั้นจะถูกโพสต์บนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับ WordPress ไว้ก่อนหน้า อย่างไรก็ตามหากเว็บไซต์ไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นไว้ แนะนำว่าควรปิดการทำงานของ XML-RPC ไว้จะดีกว่าเพื่อป้องกันการเปิดช่องโหว่ให้เว็บไซต์ถูกแฮกเกอร์โจมตี
9.เลือกโฮสต์ที่มีคุณภาพ และมีระบบป้องกันที่ดี
Hosting หรือที่นิยมเรียกกันว่าโฮสต์ ไม่ว่าจะเป็นแชร์โฮสต์, คลาวด์โฮสต์ หรือ วีพีเอส ก็เป็นคำนิยามของพื้นที่ที่เอาไว้ติดตั้งตัวเว็บไซต์ WordPress ฉะนั้นการมี Hosting ที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ และมีความปลอดภัย ก็จะเป็นการเสริมความมั่นใจให้กับเว็บไซต์ได้อีกระดับหนึ่ง ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเลือกโฮสต์สำหรับเว็บไซต์คือ
- มี SSL ให้ใช้
- มีทีม Support ที่คอยแก้ปัญหาให้ทันที
- ตรวจสอบระบบ Security ของโฮสต์ว่าสามารถป้องกันการแฮกหรือมัลแวร์ได้หลากหลายรูปแบบหรือไม่
- เลือกโฮสต์ที่มีการรองรับ PHP, MySQL หรือ MariaDB เวอร์ชันล่าสุดเสมอ
10.อย่าลืม Back Up ข้อมูล
หนึ่งวิธีในการปกป้องเว็บไซต์ WordPress ที่ดีที่สุดคือการมีข้อมูลสำรองของเว็บไซต์และไฟล์สำคัญอยู่เสมอ เพราะอย่าลืมว่าแม้จะทำตามวิธีการต่างๆ เพื่อป้องกันเว็บไซต์แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่าเว็บไซต์จะปลอดภัยต่อไวรัสหรือแฮกเกอร์ 100% ด้วยการ Back Up ข้อมูลสำคัญของเว็บไซต์ไว้หากพบ Worst Case Scenario ขึ้นมาอย่างน้อยก็ยังสามารถกู้คืนข้อมูลสำคัญต่างๆ ของเว็บไซต์ได้ทันที
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com