10 เว็บไซต์ต่างประเทศที่นักการตลาดสามารถใช้เป็นช่องทางโปรโมตเพิ่มเติม

June 6, 2022Published By: Relevant Audience
Results Image

นักการตลาดสายคอนเทนต์คงรู้กันดีว่าแค่การเขียนและเผยแพร่คอนเทนต์บนเว็บไซต์ของตนเองเพียงที่เดียวนั้นไม่เพียงพอต่อการสร้างยอด Traffic ให้เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ ในปัจจุบันนั้นเรากำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า “Content is Everywhere” ในทุกๆ เดือนบนโลกอินเทอร์เน็ตจะมีคนที่โพสต์คอนเทนต์ประมาณ 70 ล้านรายการ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ไม่ว่าจะขยับสายตาไปที่ไหนก็จะเห็นคอนเทนต์ละลานตาเต็มไปหมด 

หากคุณเป็นนักการตลาดสายคอนเทนต์ที่ต้องการยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่นี้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การรู้จักมองข้ามช็อต นั่นคือไม่เพียงแค่เผยแพร่คอนเทนต์บนเว็บไซต์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังต้องมองหาช่องทางหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ในการแชร์เนื้อหาของคุณเพื่อขยายการเข้าถึงต่อผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ลองถามตัวเองดูกันหน่อยว่าพร้อมที่จะขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ของคุณรวมไปถึงปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ที่จะเพิ่มขึ้นแล้วหรือยัง? ในบทความนี้มาแนะนำ 10 เว็บไซต์ต่างประเทศที่เหมาะจะเป็นช่องทางเสริมในการแชร์เนื้อหาคอนเทนต์ ตั้งแต่แบบ เว็บไซต์สุดแมส Mainstream ไปจนถึงเว็บไซต์สุดจะ Niche  

1.Medium

สำหรับ Medium เป็นเว็บไซต์ที่หลายคนยกไปเทียบกับ YouTube แพลตฟอร์มแชร์วิดีโอชื่อดัง เพราะ Medium.com คือเว็บไซต์ที่รวบรวมบทความจากนักเขียนทั้งมือสมัครเล่นไปจนถึงชื่อดังระดับโลก รวมถึงสำนักพิมพ์ นิตยสารชื่อดัง และแน่นอนว่ามีพื้นที่ให้เขียนบทความฟรีเหมือนกับบล็อกทั่วไปอีกด้วย 

นอกจากนี้อินเทอร์เฟซของเว็บไซต์ยังดูเรียบง่ายน่าใช้งาน แถมไม่มีโฆษณารบกวนหรือทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญระหว่างการอ่านบทความในเว็บหรือบนแอปฯ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักอ่านเลย 

อย่างไรก็ตาม ในบทความที่จะนำมาเผยแพร่ควรมีลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของเราด้วย อย่างในภาพตัวอย่างการเขียนบทความโดย DrumUp ก็มีการแนบลิงก์ไว้ในตอนท้าย ใครที่กำลังมองหาเว็บไซต์ต่างประเทศในการเผยแพร่บทความอยู่ อยากให้ลองมอง Medium เป็นตัวเลือกแรกๆ รับรองว่าถ้าอยากเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์ไม่มีผิดหวังแน่นอน 

2.Reddit

ใครที่ไม่รู้จัก Reddit อธิบายง่ายๆ ก็คือเป็น Pantip ของฝรั่งนั่นเอง ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ ด้วย Reddit เป็นเว็บไซต์ที่มีคนเข้าอันดับต้นๆ ของโลก และมีอิทธิพลทางสังคมออนไลน์ พอๆ กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่าง Facebook หรือ Twitter ฉะนั้นจึงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดูคุ้มค่าในการแชร์เนื้อหาคอนเทนต์ 

อย่างที่บอกว่า Reddit เป็นแพลตฟอร์มคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ดังนั้นการจะเลือกแชร์คอนเทนต์จะต้องทำอย่างถูกวิธี ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอย่าง ”การสแปมเนื้อหาที่ดูจงใจเกินไป” เช่น การสมัครบัญชีเพื่อเข้ามาโพสต์แต่คอนเทนต์เนื้อหาของตนเอง ไม่เช่นนั้นแอคเคาท์อาจจะโดนชาว Redditors รุมกดรีพอร์ตก็ได้

3.LinkedIn Articles

LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเผยแพร่บทความลงในบล็อกโพสต์ได้ในฟีเจอร์ LinkedIn Artiels ได้ แน่นอนว่าด้วยความเป็นแพลตฟอร์มโซเชีลมีเดียที่อาจจดูไม่ฮอตเท่ากับ Facebook แต่ด้วยความที่ LinkedIn มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ค่อนข้างสูงด้วยการที่เป็นแหล่งรวมคนทำงานเข้าไว้ด้วยกัน ฉะนั้นหากเนื้อหาคอนเทนต์สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานเหล่านี้ได้ ผู้ใช้งานก็สามารถเลือกที่จะกดติดตามเพื่อสมัครติดตามโพสต์ต่างๆ  นั่นหมายความว่าใครที่กดติดตามก็จะได้รับการแจ้งเตือนในทุกครั้งที่มีการเผยแพร่คอนเทนต์ใหม่ๆ ทันที 

4.Listly

อีกหนึ่งเว็บไซต์ที่เหมาะแก่การแชร์คอนเทนต์นั่นคือ Listly ด้วยการที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปฯ บนมือถือ ทำให้การดูเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ Listly ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถให้ผู้ใช้งานกดปุ่มถูกใจทำให้นักการตลาดสามารถนำข้อมูลเชิงลึกนี้มาวัดผลได้ว่าคอนเทนต์ที่แชร์ไปนั้นมีฟีดแบ็กกลับมาอย่างไร

5.BizSugar

BizSugar เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รวบรวมทั้งผู้ประกอบการ ผู้จัดการ หรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเข้าด้วยกัน โดยสามารถแชร์วิดีโอ หัวข้อ หรือบล็อกต่างๆ ไปยังผู้ติดตาม ฉะนั้นสำหรับนักการตลาดที่ต้องการสร้างการเข้าถึงคอนเทนต์ที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์บทความ วิดีโอ หรือเนื้อหาประเภทอื่นๆ ก็สามารถทำได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถจัด Online Event ในหัวข้อต่างๆ เพื่อเป็นการขยายฐานผู้ติดตามได้อีกด้วย

6.Copyblogger

CopyBlogger เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมทฤษฎีการเขียนทุกอย่างที่นักเขียนออนไลน์ต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเขียน Copywriting ตลอดจนการทำดิจิทัลคอนเทนต์ที่สามารถนำไปปรับใช้กับการสื่อสารการตลาดออนไลน์ หากคุณมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเคล็ดลับสร้างงานเขียนให้น่าสนใจ หรือเรื่องน่ารู้ของการทำคอนเทนต์ที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้ ก็สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเผยแพร่เนื้อหาคอนเทนต์ได้เช่นกัน 

7.Dzone

หากเนื้อหาของคุณเป็นประเภทฮาวทูหรือเทคนิคที่ค่อนข้างละเอียดเกี่ยวกับการเขียนเว็บและ Data ต่างๆ การใช้งานเว็บไซต์ Dzone เป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ควรลอง เพราะที่นี่คือแหล่งรวมตัวของบรรดาผู้คนที่หลงใหลการเขียนเว็บ แถมในบล็อกของเว็บไซต์ยังมีการจัดหมวดหมู่เนื้อหาแยกตามประเด็นต่างๆ ไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น AI, Big data, Cloud, Databse, DevOps, IoT, Web Dev เป็นต้น

8.Quora

“ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์” คือหนึ่งในคอนเซปต์ของเว็บไซต์ Quora ที่ถูกออกแบบมาเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีการถาม-ตอบ (Q&A) และมีการจัดหมวดหมู่ตามเนื้อหาที่ผู้ใช้งานสนใจ

ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง จึงกลายมาเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และแน่นอนว่าในฐานะนักการตลาดที่ต้องการแชร์เนื้อหาคอนเทนต์ของตนเอง Quora ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางเสริมที่น่าสนใจ

9.GrowthHackers

สำหรับเว็บไซต์ Growthhackers เป็นการรวมความต้องการของกลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่ที่ต้องการเติบโตและเอาชนะอุปสรรคใหม่ๆ ฉะนั้นเนื้อหาคอนเทนต์ในเว็บไซต์จะเน้นที่รายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกต่างๆ เกี่ยวกับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง นักการตลาดที่ถือครองคอนเทนต์ประเภทเคล็ดลับที่ไม่ลับ หรือเทคนิคต่างๆ ก็สามารถใช้เว็บไซต์ GrowthHackers นี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางเสริมในการโปรโมตคอนเทนต์หรือเว็บไซต์ได้เช่นกัน

10.Scoop.It

Scoop.it เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้รายเดือนมากกว่าสองล้านราย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ทรงพลังสำหรับนักการตลาด โดยการทำงานของ Scoop.it จะทำหน้าที่เป็น Content Curator ที่ผู้ใช้งานจะต้องเลือกหัวข้อที่สนใจ จากนั้นระบบจะเริ่มค้นหาเนื้อหาที่ตรงกับหัวข้อขึ้นมาจาก Source ต่างๆ แล้วผู้ใช้ก็จะสามารถเลือกเนื้อหานั้นๆ เพื่อดูหรือแชร์ต่อก็ได้ โดยเนื้อหาที่ถูกเลือกไว้นั้นยังสามารถนำมาจัดเก็บไว้ในหมวดหมู่ที่สร้างไว้และสามารถแชร์ให้กับคนอื่น สำหรับนักการตลาดก็สามารถโพสต์บทความเพื่อหวังให้ผู้ใช้งานเห็นและเกิดการแชร์ต่อหากเนื้อหานั้นตรงใจก็ได้เช่นกัน

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Related Articles

If you enjoyed reading this article, you might like these too.

SEO vs SEM: ความแตกต่างคืออะไร?
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 9, 2025

SEO vs SEM: ความแตกต่างคืออะไร?
เรียนรู้ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง SEO และ SEM ข้อดี ข้อจำกัด และวิธีใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการมองเห็นในผลการค้นหาที่ดียิ่งขึ้น...
คู่มือ PPC สำหรับบริษัท SaaS
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 9, 2025

คู่มือ PPC สำหรับบริษัท SaaS
เรียนรู้วิธีสร้างกลยุทธ์ PPC ที่ประสบความสำเร็จสำหรับธุรกิจ SaaS ของคุณ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ตั้งเป้าหมาย และติดตามผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ...
รายงานผู้ขายใหม่ของ Google เพิ่มประสิทธิภาพการจัดแสดงสินค้า
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 9, 2025

รายงานผู้ขายใหม่ของ Google เพิ่มประสิทธิภาพการจัดแสดงสินค้า
เรียนรู้ว่ารายงานโอกาสสำหรับผู้ขายที่อัปเดตของ Google ช่วยให้ร้านค้าจัดการการชำระเงิน, คะแนนรีวิว, และนโยบายเพื่อเพิ่มการมองเห็นใน Google Shopping ได้อย่างไร...
15 วิธีเพิ่มผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียของคุณ
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 8, 2025

15 วิธีเพิ่มผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียของคุณ
เรียนรู้วิธีเพิ่มผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียด้วยเคล็ดลับเกี่ยวกับเนื้อหา การมีส่วนร่วม และกลยุทธ์ เพิ่มการมองเห็นแบรนด์ของคุณออนไลน์วันนี้...