การปรับปรุงด้าน SEO สำหรับเว็บไซต์ E-Commerce ที่หลายท่านมองข้ามไป

March 11, 2021Published By: Relevant Audience
Results Image

ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยนั้นมีการเติบโตสูงขึ้น และมีการแข่งขันกันมากอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของ B2B (Business-to-Business), B2C (Business-to-Consumers) รวมถึง B2G (Business-to-Government) ทำให้ธุรกิจร้านค้าต้องมีการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว และต้องเตรียมความพร้อมทางด้านธุรกิจ E-Commerce กันให้มากขึ้น

การวางกลยุทธ์ด้าน E-commerce นั้นอาจทำได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การใช้สื่อ Social media ต่าง ๆ เช่น การใช้ Facebook, Line, Instagram ช่วยในการขายสินค้าและบริการ, การใช้ E-Marketplace เช่น Shopee, Lazada ช่วยในการขายสินค้าและบริการ รวมถึงการสร้างเว็บไซต์ E-commerce ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางการซื้อขายกับลูกค้า เป็นต้น กลยุทธ์ด้าน E-commerce เหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจของท่านบรรลุเป้าหมายได้

โดยเฉพาะการสร้างเว็บไซต์ E-commerce ที่เปรียบเสมือนการสร้างร้านของตัวเอง และเป็น long Term strategy, หากท่านวางโครงสร้างเว็บไซต์ และไม่ได้ตรวจเช็คด้าน SEO ตั้งแต่เริ่มต้น อาจทำให้เกิดผลเสียต่อเว็บไซต์ของท่านในระยะยาวได้ อาจทำให้เกิดปัญหาอาทิ เว็บสร้างมานานแล้วแต่ไม่ติดหน้าแรก Google สักที หรือหลังจากปรับปรุงเว็บ แต่อันดับและ Traffic กลับแย่ลง เรามาดูกันว่าการปรับปรุงปัจจัยด้าน SEO ข้อใดบ้างที่จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้

  1. SEO Meta tags: เจ้าของเว็บไซต์ E-Commerce หลายท่านอาจไม่เคยตรวจสอบ SEO Meta tags เลยหลังจากเว็บไซต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว, การตั้งค่า SEO Meta tags ที่ดีจะช่วยให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของท่านมากขึ้น และนำไปสู่อันดับการค้นหาที่ดีขึ้นได้
  2. Website Structure: การวางโครงสร้างเว็บไซต์ที่ทำให้ทั้ง User และ Search Engine bot อ่านได้ง่ายนั้น จะส่งผลดีเป็นอย่างมากในด้าน SEO เช่น วาง path ของ URL ให้น้อยลง, การใช้งาน breadcrumb, การแปลง Java Script ให้เป็น Html, การแทรก Schema Markup เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของท่านมีคุณภาพมากขึ้นในมุมมองของ Google
  3. Page Speed: หากท่านเป็น User ที่เข้าชมเว็บไซต์และเว็บไซต์นั้นโหลดช้ามากท่านคงไม่ชอบเว็บไซต์นั้นและปิดไปอย่างแน่นอน, Google bot ก็เช่นกัน หากเว็บไซต์ของท่านโหลดนานเกินไป Google ก็จะมองข้ามเว็บไซต์ของท่านและอาจไปเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคู่แข่งที่โหลดเร็วกว่ามาจัดอันดับก็เป็นได้
  4. การตั้งค่า Canonical tags: ในเว็บไซต์ E-Commerce ขนาดใหญ่ ที่มีสินค้าหลายชิ้น จะพบปัญหาหน้าข้อมูลซ้ำกันได้ง่าย อาจเกิดจาก Pagination page หรือ Category page ที่ทำให้เกิดเนื้อหาซ้ำกัน และคงไม่ดีแน่ หาก Google เข้ามาและเจอแต่เนื้อหาซ้ำกัน การตั้งค่า Canonical tags ที่เหมาะสมจะช่วยจัดกลุ่มให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์หน้าใดมีเนื้อหาเหมือนกันบ้าง ลดไม่ลดคะแนนเว็บไซต์ของท่านลง
  5. Optimize image: การ Optimize image คือการปรับปรุงรูปภาพให้รองรับ SEO มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน Google สนใจในการนำรูปภาพมาแสดงผลที่หน้าแรก มนส่วนของ Feature Snippet มากขึ้น การ Optimize รูปภาพ ก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพด้าน SEO ให้กับเว็บไซต์ของท่านได้
  6. ขาด SEO content: นอกจากการลงข้อมูลสินค้าแล้ว เจ้าของงเว็บไซต์หลายท่านอาจมองข้ามในส่วนของ SEO content ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมให้เว็บไซต์ของท่านมีอันดับที่ดีขึ้นบน Google และช่วยในการเพิ่ม brand awareness ได้อีกด้วย เช่น เว็บไซต์ของท่านขายสินค้าด้านสุขภาพ การลงเนื้อหา SEO content ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ของท่านมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นสำหรับ Google, ช่วยเพิ่ม Organic traffic และเป็นการส่งเสริมให้ keyword เป้าหมายมีอันดับที่ดีขึ้นด้วย
  7. Backlink ไม่มีคุณภาพ: Google นั้นได้ปรับอัลกอริทึมมากมายเพื่อป้องกันการทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ การสะสม backlink ที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้ถูก Google ลดความน่าเชื่อถือลงไปจนถึงขั้นถูก Google แบนได้

หากท่านได้ตรวจเช็คเว็บไซต์ E-Commerce ของท่านตามที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะทำให้เว็บไซต์ของท่านมีคุณภาพด้าน SEO ดีขึ้น Organic traffic มีการเติบโตขึ้น และอันดับของ keyword ดีขึ้นได้

หากท่านกำลังมองหา Digital agency หรือมองหา ที่ปรึกษาด้านการทำ SEO ท่านสามารถติดต่อเรา Relevant Audience ได้เลย ทางเรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาฟรี โทรศัพท์: 020385055

อีเมล: Info@relevantaudience.com หรือแอดไลน์เรามาได้เลย https://line.me/R/ti/p/@relevantaudience

Related Articles

If you enjoyed reading this article, you might like these too.

SEO vs PPC: อะไรเหมาะกับธุรกิจของคุณ?
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 22, 2025

SEO vs PPC: อะไรเหมาะกับธุรกิจของคุณ?
เรียนรู้ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง SEO และ PPC เพื่อเลือกกลยุทธ์ที่ตรงกับเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ด้วยการผสมผสานที่เหมาะสมระหว่างการตลาดแบบออร์แกนิกและการตลาดแบบเสียเงิน...
SEO vs PPC: Which is Right for Your Business?
General topics

April 22, 2025

SEO vs PPC: Which is Right for Your Business?
Learn the key differences between SEO and PPC to decide which strategy fits your business goals. Boost traffic with the...
เพิ่มการแปลงด้วยการรีมาร์เก็ตติ้งข้ามแพลตฟอร์ม
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 21, 2025

เพิ่มการแปลงด้วยการรีมาร์เก็ตติ้งข้ามแพลตฟอร์ม
เรียนรู้วิธีใช้การรีมาร์เก็ตติ้งข้ามแพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าที่มีศักยภาพใหม่อีกครั้งและปรับปรุงอัตราการแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ...
5 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Google Ads สำหรับ SaaS
เรื่องทั่วไปด้านการตลาดออนไลน์

April 21, 2025

5 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Google Ads สำหรับ SaaS
เรียนรู้วิธีปรับแต่งโฆษณา Google Ads สำหรับ SaaS ของคุณด้วยกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพิ่มอัตราการแปลงและได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในวันนี้...